U.S. universities create through accelerated learning.
เขียนบทความ/แปล/เรียบเรียงโดย : ต้น ซุง Eduzones
สวัสดีครับชาว Interscholarship ทุกคน ในสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้การเรียนในรูปแบบออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกวันครับ จะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนเริ่มเปิดการเรียนการสอนทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ (Online Education) กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐอย่าง Arizona State University ที่ได้รับความนิยมในการลงทะเบียนเรียนระดับปริญญาตรี และปริญญาโทจากนักเรียนฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกากันอย่างมากทีเดียวครับ จนสำนักข่าวอย่าง U.S. News ต้องจัดอันดับสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมด้านการศึกษาออนไลน์ขึ้นมาทีเดียว ด้วยความสำคัญของการเรียนออนไลน์ที่มีความสะดวก ราคาประหยัดและศึกษาได้ทุกที่ทั่วโลกส่งผลให้การศึกษาออนไลน์มีอิทธิพลมากขึ้นในวงการการศึกษาทั่วโลกครับ
ความสำคัญดังกล่าวทำให้มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของสหรัฐอเมริกาอย่างฮาร์วาร์ด MIT พรินซ์ตันและอีกหลายแห่ง ต้องปรับตัวและรับมือกับการศึกษาออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นอย่างมาก สำหรับฮาร์วาร์ด และ Massachusetts Institute of Technology (WITH) ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับเงินร่วมทุนกว่า 60 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในการเปิดตัวแฟลตฟอร์มหลักสูตรออนไลน์ที่เรียกว่า “edX” อันเป็นสัญญาณของการปฏิวัติการศึกษาทั่วโลกทีเดียวครับ
โดย edX นี้จะเป็นหลักสูตรโต้ตอบออนไลน์ซึ่งทำงานคล้ายกับฮาร์ดแวร์ลับทางการทหาร และเป็นหลักสูตรสำหรับทุกคนที่ต้องการศึกษาในปัจจุบันโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
สำหรับมหาวิทยาลัยใน Silicon Valley อย่าง Stanford ได้มีการริเริ่มแฟลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งเรียกว่า “Coursera” ซึ่งใช้ในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย รวมทั้งมหาวิทยาลัยอื่น เช่น พรินซ์ตัน เป็นต้น
Anant Agarwal อธิการบดีของ edX และผู้อำนวยการของ MIT’s Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการเรียนออนไลน์ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเรียกว่า ”MITx” ซึ่งกระแสตอบรับในปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยมีนักเรียนลงทะเบียนเรียนจนล้นจำนวนที่ทางมหาวิทยาลัยประกาศรับ มีการประมาณว่ามากกว่าจำนวนนักเรียนที่จบการศึกษาในปีนั้นทีเดียว
ความจริงแล้วเรื่องของการเรียนออนไลน์นี้เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวจากนักเรียนตั้งแต่เริ่มต้นศตวรรษที่ 19 ความสำคัญของอินเตอร์เน็ตช่วยให้คนได้เข้าถึงการเรียนรู้มากขึ้น แต่ก็ยังมีคำถามในวงกว้างถึงความขัดแย้งกับการศึกษาในรูปแบบเดิมของมหาวิทยาลัย Professor Agarwal อธิบายว่า เราได้ข้ามจุดเปลี่ยนผ่านตรงนั้นมาแล้ว และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะมีนักเรียนลงเรียนเพิ่มขึ้นถึง 500,000 คน โดย MITx เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการเรียนการสอนผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งใช้ในห้องปฏิบัติการเสมือนจริง มีหนังสือเรียนออนไลน์ (e-textbooks) การสนทนาออนไลน์ และการบรรยายผ่านวีดีโอ
ในเรื่องการประเมินผลการเรียนของหลักสูตร นักเรียนต้องใช้เวลาศึกษา 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จากระบบอัตโนมัติทั้งหมด เขายังกล่าวว่า “นี่อาจเป็นจุดสิ้นสุดของการเรียนการสอนในภาคบรรยายในห้องเรียน ซึ่งคุณไม่สามารถกดปุ่มหยุดเมื่อผู้บรรยาย บรรยายไปอย่างรวดเร็วจนคุณตามเนื้อหาไม่ทัน” สำหรับเครื่องมือบันทึกการบรรยาย อาจใช้ Ipad ในการเรียนการสอน ซึ่งจะมีใช้มากขึ้นสำหรับการที่ไม่ต้องพกตำราเรียนมาจากห้องสมุด
Michael Smith คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ของฮาร์วาร์ด อธิบายว่า ”การร่วมมือที่สำคัญในครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีของการร่วมมือกันในการวิจัยที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียวในโปรเจ็ค EDx”
สำหรับเรื่องของการรับรองวิทยฐานะของการเรียนรูปแบบนี้ยังเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก แต่ MIT และ ฮาร์วาร์ด อ้างว่าหลักสูตรของมหาวิทยาลัยมีการควบคุมอย่างเข้มงวดและดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งนักเรียนที่ประสบความสำเร็จก็จะได้รับใบรับรองของการเรียนรู้ (certificate of mastery) โดยไม่ได้รับปริญญาหรือการรับรองอื่นใด และมันถูกกำหนดขึ้นกับการเรียนแบบจ่ายเงินด้วย ซึ่งหากนักเรียนในห้องเรียนต้องจ่ายเงินถึง 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อปี ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้เรียนออนไลน์จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพื่อให้บรรลุการศึกษาที่ตนเองต้องการ
สำหรับ edX ค่อนข้างโชคดีที่มีสถาบันหุ้นส่วนที่ค่อนข้างร่ำรวยและได้รับผลตอบแทนทางการเงินพอสมควร ซึ่งแตกต่างจากทัศนะของ Daphne Koller ผู้ก่อตั้งร่วมของ Coursera ที่ว่า ”การขยายตัวของหลักสูตรออนไลน์ จะเพิ่มคำถามที่ตอบยากมากขึ้นกับผู้ที่เรียนกระแสหลักในห้องเรียน อาจจะเป็นเรื่องของค่าเล่าเรียนที่สูงขึ้น”
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่เพียงพอกับความต้องการในเรื่องสถานที่ แต่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่น่าห่วงในการจัดอันดับของสถาบันที่มีหลักสูตรออนไลน์คุณภาพ
ยังมีกระแสคำถามขึ้นว่า ”ทำไมคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงๆเพื่อที่จะนั่งฟังบรรยายในห้องเรียน ในขณะที่หลักสูตรออนไลน์คุณสามารถนั่งฟังจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลกและยังมีเพื่อนและคณาจารย์รับฟังความคิดเห็น”
Professor Koller กล่าวว่า Coursera จะเผยแพร่เนื้อหาให้แก่บุคคลทั่วไปโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่าน Google ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนสนใจชมกว่า 600,000 คน ทั่วโลก โดยในขั่นเริ่มต้นมีนักเรียนสนใจเข้ามาหาความรู้กว่า 190 ประเทศด้วยกัน ซึ่งตัวเลขนักเรียนที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่สหราชอาณาจักร บลาซิล รัสเซียและอินเดีย นี่คืออิทธิพลของความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงที่เข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน เขายังกล่าวเสริมว่า ”เทคโนโลยีจะมีจุดที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน เราไม่ควรแบ่งชั้นของสังคมด้วยการวัดความสามารถในการจ่ายได้ทางการศึกษา”
Bill and Melinda Gates Foundation
เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 ที่ผ่านมา Bill and Melinda Gates Foundation ประกาศว่าได้ให้ เงินบริจากแก่ MIT ในหลักสูตร edX ถึง 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือและบริการนักเรียนที่มีรายได้ต่ำ
แน่นอนสำหรับสหราชอาณาจักรที่ มหาวิทยาลัยเปิด (Open University) มีหลักสูตรปริญญาออนไลน์อยู่แล้ว แต่ Stanford ยังคงต้องได้รับการทดลอง แต่การเข้ามาเล่นบนเวทีหลักสูตรออนไลน์ของมหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่อย่าง Harvard, Stanford และ MIT หมายถึงการลงมาเล่นในระดับรากหญ้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญทางการศึกษาอย่าง Ipad และ Smartphone อีกอีกทั้งยังมีวัสดุการศึกษาออนไลน์ฟรี เช่น iTunes U เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีคำเตือนเกี่ยวกับการประมาณการณ์อนาคต จาก William Dutton แห่ง Oxford Internet Institute, University of Oxford เขาได้เสนอแนะว่า ”มหาวิทยาลัยได้ทดสอบการเรียนออนไลน์ในทศวรรษที่ผ่านมา แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะมันจะยากกว่าการสอนที่หันหน้าเข้าหากันในชั่นเรียน”
Anka Mulder President ofDelft University ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แสดงความคิดเห็นว่า ”หลักสูตรออนไลน์จะสร้างความกังวลในเรื่องการขาดปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียน และจะเป็นสิ่งที่ครอบงำในเรื่องการเปลี่ยนนิสัยของคนในสังคม การพูดคุยและการแบ่งปันออนไลน์ไม่ใช่เรื่องไกลจากจินตนาการ ซึ่งนักเรียนจะมีช่องว่างระหว่างชีวิตในช่วงที่เรียนออนไลน์และภาพนั้นจะเบลอ” เธอยังกล่าวเสริมว่าในอีก 5 ปี จะมีการใช้การเรียนรู้แบบออนไลน์ผสมเข้ามาในหลักสูตรการเรียนในชั้นเรียนเพียงบางส่วน การเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ยังคงมีอยู่และมันไม่ได้หนีหายไปไหน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ชาว Interscholarship สนใจเรียนหลักสูตรออนไลน์กันขึ้นมาบ้างหรือเปล่าครับ “วัฒนธรรมทางการศึกษา” ได้เปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิม จากการเข้าห้องเรียนสู่โลกไซเบอร์นั้นเป็นเรื่องที่เราควรปรับตัวและเรียนรู้ครับ เราสามารถศึกษาข้อมูลที่มีประโยชน์และเลือกรับความรู้ที่ดีมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ครับ ที่สำคัญเราต้องแยกชีวิตจริงและชีวิตในโลกออนไลน์ให้ออก ต้องรู้เท่าทันสื่ออย่าโดนสื่อควบคุม เพราะมนุษย์เราเป็นคนสร้างสื่อขึ้นมาเองครับ
เขียนบทความ/แปล/เรียบเรียงโดย : ต้น ซุง Eduzones
ขอบคุณข้อมูลและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : [1] / http://www.coursera.org/ / http://www.edxonline.org/ , ankamulder.weblog.tudelft.nl , oii.ox.ac.uk, sharequotes.us
1 Comments on "U.S. universities create through accelerated learning."
น่าสนใจมากกกกกกกกกกกกก
ต้องไปเร่งภาษาอังกฤษตัวเองแล้ว จะได้เรียนรู้เรื่อง
ขอบคุณที่เอามาให้ทราบกันนะคะ