มหาวิทยาลัยสหรัฐฯเร่งสร้างชื่อผ่านการเรียนออนไลน์

กรกฎาคม 12, 2012 by: 1
Visit 5,804 views

การเข้ามาเล่นบนเวทีหลักสูตรออนไลน์ของมหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่อย่าง Harvard, Stanford และ MIT หมายถึงการลงมาเล่นในระดับรากหญ้ามากขึ้น

เขียนบทความ/แปล/เรียบเรียงโดย : ต้นซุง Eduzones

สวัสดีครับชาว Interscholarship ทุกคน ในสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้การเรียนในรูปแบบออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกวันครับ จะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนเริ่มเปิดการเรียนการสอนทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ (Online Education) กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐอย่าง Arizona State University ที่ได้รับความนิยมในการลงทะเบียนเรียนระดับปริญญาตรี และปริญญาโทจากนักเรียนฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกากันอย่างมากทีเดียวครับ จนสำนักข่าวอย่าง U.S. News ต้องจัดอันดับสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมด้านการศึกษาออนไลน์ขึ้นมาทีเดียว ด้วยความสำคัญของการเรียนออนไลน์ที่มีความสะดวก ราคาประหยัดและศึกษาได้ทุกที่ทั่วโลกส่งผลให้การศึกษาออนไลน์มีอิทธิพลมากขึ้นในวงการการศึกษาทั่วโลกครับ

YouTube Preview Image

ความสำคัญดังกล่าวทำให้มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของสหรัฐอเมริกาอย่างฮาร์วาร์ด MIT พรินซ์ตันและอีกหลายแห่ง ต้องปรับตัวและรับมือกับการศึกษาออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นอย่างมาก สำหรับฮาร์วาร์ด และ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับเงินร่วมทุนกว่า 60 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในการเปิดตัวแฟลตฟอร์มหลักสูตรออนไลน์ที่เรียกว่า “edX” อันเป็นสัญญาณของการปฏิวัติการศึกษาทั่วโลกทีเดียวครับ

YouTube Preview Image

โดย edX นี้จะเป็นหลักสูตรโต้ตอบออนไลน์ซึ่งทำงานคล้ายกับฮาร์ดแวร์ลับทางการทหาร และเป็นหลักสูตรสำหรับทุกคนที่ต้องการศึกษาในปัจจุบันโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับมหาวิทยาลัยใน Silicon Valley อย่าง Stanford ได้มีการริเริ่มแฟลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งเรียกว่า “Coursera” ซึ่งใช้ในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย รวมทั้งมหาวิทยาลัยอื่น เช่น พรินซ์ตัน เป็นต้น

YouTube Preview Image

Anant Agarwal อธิการบดีของ edX และผู้อำนวยการของ MIT’s Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการเรียนออนไลน์ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเรียกว่า  ”MITx” ซึ่งกระแสตอบรับในปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยมีนักเรียนลงทะเบียนเรียนจนล้นจำนวนที่ทางมหาวิทยาลัยประกาศรับ มีการประมาณว่ามากกว่าจำนวนนักเรียนที่จบการศึกษาในปีนั้นทีเดียว

YouTube Preview Image

ความจริงแล้วเรื่องของการเรียนออนไลน์นี้เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวจากนักเรียนตั้งแต่เริ่มต้นศตวรรษที่ 19 ความสำคัญของอินเตอร์เน็ตช่วยให้คนได้เข้าถึงการเรียนรู้มากขึ้น แต่ก็ยังมีคำถามในวงกว้างถึงความขัดแย้งกับการศึกษาในรูปแบบเดิมของมหาวิทยาลัย Professor Agarwal อธิบายว่า เราได้ข้ามจุดเปลี่ยนผ่านตรงนั้นมาแล้ว และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะมีนักเรียนลงเรียนเพิ่มขึ้นถึง 500,000 คน โดย MITx เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการเรียนการสอนผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งใช้ในห้องปฏิบัติการเสมือนจริง มีหนังสือเรียนออนไลน์ (e-textbooks) การสนทนาออนไลน์ และการบรรยายผ่านวีดีโอ

ในเรื่องการประเมินผลการเรียนของหลักสูตร นักเรียนต้องใช้เวลาศึกษา 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จากระบบอัตโนมัติทั้งหมด เขายังกล่าวว่า “นี่อาจเป็นจุดสิ้นสุดของการเรียนการสอนในภาคบรรยายในห้องเรียน ซึ่งคุณไม่สามารถกดปุ่มหยุดเมื่อผู้บรรยาย บรรยายไปอย่างรวดเร็วจนคุณตามเนื้อหาไม่ทัน” สำหรับเครื่องมือบันทึกการบรรยาย อาจใช้ Ipad ในการเรียนการสอน ซึ่งจะมีใช้มากขึ้นสำหรับการที่ไม่ต้องพกตำราเรียนมาจากห้องสมุด


                        Michael Smith

Michael Smith คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ของฮาร์วาร์ด อธิบายว่า ”การร่วมมือที่สำคัญในครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีของการร่วมมือกันในการวิจัยที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียวในโปรเจ็ค EDx”

สำหรับเรื่องของการรับรองวิทยฐานะของการเรียนรูปแบบนี้ยังเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก แต่ MIT และ ฮาร์วาร์ด อ้างว่าหลักสูตรของมหาวิทยาลัยมีการควบคุมอย่างเข้มงวดและดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งนักเรียนที่ประสบความสำเร็จก็จะได้รับใบรับรองของการเรียนรู้ (certificate of mastery) โดยไม่ได้รับปริญญาหรือการรับรองอื่นใด และมันถูกกำหนดขึ้นกับการเรียนแบบจ่ายเงินด้วย ซึ่งหากนักเรียนในห้องเรียนต้องจ่ายเงินถึง 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อปี ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้เรียนออนไลน์จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพื่อให้บรรลุการศึกษาที่ตนเองต้องการ


                            Daphne Koller

สำหรับ edX ค่อนข้างโชคดีที่มีสถาบันหุ้นส่วนที่ค่อนข้างร่ำรวยและได้รับผลตอบแทนทางการเงินพอสมควร ซึ่งแตกต่างจากทัศนะของ Daphne Koller ผู้ก่อตั้งร่วมของ Coursera ที่ว่า ”การขยายตัวของหลักสูตรออนไลน์ จะเพิ่มคำถามที่ตอบยากมากขึ้นกับผู้ที่เรียนกระแสหลักในห้องเรียน อาจจะเป็นเรื่องของค่าเล่าเรียนที่สูงขึ้น”

มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่เพียงพอกับความต้องการในเรื่องสถานที่ แต่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่น่าห่วงในการจัดอันดับของสถาบันที่มีหลักสูตรออนไลน์คุณภาพ

ยังมีกระแสคำถามขึ้นว่า ”ทำไมคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงๆเพื่อที่จะนั่งฟังบรรยายในห้องเรียน ในขณะที่หลักสูตรออนไลน์คุณสามารถนั่งฟังจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลกและยังมีเพื่อนและคณาจารย์รับฟังความคิดเห็น”

Professor Koller กล่าวว่า Coursera จะเผยแพร่เนื้อหาให้แก่บุคคลทั่วไปโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่าน Google ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนสนใจชมกว่า 600,000 คน ทั่วโลก โดยในขั่นเริ่มต้นมีนักเรียนสนใจเข้ามาหาความรู้กว่า 190 ประเทศด้วยกัน ซึ่งตัวเลขนักเรียนที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่สหราชอาณาจักร บลาซิล รัสเซียและอินเดีย นี่คืออิทธิพลของความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงที่เข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน เขายังกล่าวเสริมว่า ”เทคโนโลยีจะมีจุดที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน เราไม่ควรแบ่งชั้นของสังคมด้วยการวัดความสามารถในการจ่ายได้ทางการศึกษา”


    Bill and Melinda Gates Foundation

เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 ที่ผ่านมา Bill and Melinda Gates Foundation ประกาศว่าได้ให้ เงินบริจากแก่ MIT ในหลักสูตร edX ถึง 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือและบริการนักเรียนที่มีรายได้ต่ำ

แน่นอนสำหรับสหราชอาณาจักรที่ มหาวิทยาลัยเปิด (Open University) มีหลักสูตรปริญญาออนไลน์อยู่แล้ว แต่ Stanford ยังคงต้องได้รับการทดลอง แต่การเข้ามาเล่นบนเวทีหลักสูตรออนไลน์ของมหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่อย่าง Harvard, Stanford และ MIT หมายถึงการลงมาเล่นในระดับรากหญ้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญทางการศึกษาอย่าง Ipad และ Smartphone อีกอีกทั้งยังมีวัสดุการศึกษาออนไลน์ฟรี เช่น iTunes U เป็นต้น


                            William Dutton

นอกจากนี้ยังมีคำเตือนเกี่ยวกับการประมาณการณ์อนาคต จาก William Dutton แห่ง Oxford Internet Institute, University of Oxford เขาได้เสนอแนะว่า ”มหาวิทยาลัยได้ทดสอบการเรียนออนไลน์ในทศวรรษที่ผ่านมา แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะมันจะยากกว่าการสอนที่หันหน้าเข้าหากันในชั่นเรียน”


                               Anka Mulder

Anka Mulder ประธานของ Delft University ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แสดงความคิดเห็นว่า ”หลักสูตรออนไลน์จะสร้างความกังวลในเรื่องการขาดปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียน และจะเป็นสิ่งที่ครอบงำในเรื่องการเปลี่ยนนิสัยของคนในสังคม การพูดคุยและการแบ่งปันออนไลน์ไม่ใช่เรื่องไกลจากจินตนาการ ซึ่งนักเรียนจะมีช่องว่างระหว่างชีวิตในช่วงที่เรียนออนไลน์และภาพนั้นจะเบลอ” เธอยังกล่าวเสริมว่าในอีก 5 ปี จะมีการใช้การเรียนรู้แบบออนไลน์ผสมเข้ามาในหลักสูตรการเรียนในชั้นเรียนเพียงบางส่วน การเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ยังคงมีอยู่และมันไม่ได้หนีหายไปไหน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ชาว Interscholarship สนใจเรียนหลักสูตรออนไลน์กันขึ้นมาบ้างหรือเปล่าครับ “วัฒนธรรมทางการศึกษา” ได้เปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิม จากการเข้าห้องเรียนสู่โลกไซเบอร์นั้นเป็นเรื่องที่เราควรปรับตัวและเรียนรู้ครับ เราสามารถศึกษาข้อมูลที่มีประโยชน์และเลือกรับความรู้ที่ดีมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ครับ ที่สำคัญเราต้องแยกชีวิตจริงและชีวิตในโลกออนไลน์ให้ออก ต้องรู้เท่าทันสื่ออย่าโดนสื่อควบคุม เพราะมนุษย์เราเป็นคนสร้างสื่อขึ้นมาเองครับ

เขียนบทความ/แปล/เรียบเรียงโดย : ต้นซุง Eduzones

ขอบคุณข้อมูลและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ BBC [1]  / http://www.coursera.org/ / http://www.edxonline.org/ , ankamulder.weblog.tudelft.nl , oii.ox.ac.uk, sharequotes.us

 


About Auther : ต้นซุง Eduzones  (609 Posts)

International Education Columnist, Webmaster, Correspondent


Share this Story

    1 Comments on "มหาวิทยาลัยสหรัฐฯเร่งสร้างชื่อผ่านการเรียนออนไลน์"

  1. crazyintennis พูดว่า:

    น่าสนใจมากกกกกกกกกกกกก
    ต้องไปเร่งภาษาอังกฤษตัวเองแล้ว จะได้เรียนรู้เรื่อง
    ขอบคุณที่เอามาให้ทราบกันนะคะ

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.

Translation

Englishภาษาไทย

คำค้น