CAEL test ก่อนไปแคนาดา
ผู้ต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดาได้เฮ เมื่อศูนย์การศึกษาแคนาดา ภายใต้การดูแลของสถานทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย เริ่มนำระบบการสอบ CAEL test หรือ Canadian Academic English Language Assessment มาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการสอบที่ไม่ยาก และสนุก โดยเป็นการสอบที่ได้รับรองจากสถาบันอุดมศึกษาในแคนาดากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งผู้ที่สอบยังสามารถใช้ผลการสอบไปสมัครเรียนที่แคนาดา โดยไม่ต้องสอบ โทเฟล หรือ ไอเอลท์ส อีกต่อไป
สุรชิต ชโนวรรณ ผู้ อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย ของศูนย์การศึกษาแคนาดา หรือ Canadian Education Centre Network เผยว่า การจัดสอบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก และเป็นศูนย์สอบ Cael Test เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งลักษณะการสอบก็จะเป็นลักษณะของการจำลอง บรรยากาศของการที่นักศึกษาเข้าไปฟังเลคเชอร์ ในห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยในแคนาดา เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้สอบมีความเข้าใจมากน้อยเพียงใด เมื่อต้องไปอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกับการไปศึกษาจริง ๆ โดยไม่มีการเน้นเรื่องของแกรมม่ามากนัก จึงไม่ยากนัก ส่วนคะแนนที่จะวัดว่าสอบได้หรือไม่ จะตัดที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เทียบได้กับ 550 ของการสอบโทเฟลนั่นเอง
“เท่าที่ผมสังเกตดู ผู้ที่มาสอบจะทำข้อสอบด้วยท่าทางที่สนุก ไม่เครียด เพราะเราคิดว่า มันไม่ยากจนเกินไป ทำให้หลายคนค่อนข้างมั่นใจ บางคนก็ทำได้เร็วกว่าเวลาที่กำหนดด้วยซ้ำไป ซึ่งหลังสอบเสร็จแล้ว เราจะส่งผลกลับไปที่ศูนย์สอบ Cael Test ที่แคนาดา และจะได้รับแจ้งผลกลับมาทางเมล์ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่ต้องการสอบใหม่ก็ยังสามารถสมัครสอบได้ หลังจากสอบครั้งแรกไปแล้ว ประมาณ 2 เดือนครึ่ง ถึง 3 เดือน
ทางศูนย์จะจัดสอบ หลังจากมีผู้แจ้งความจำนงในการสอบเข้ามาเป็นจำนวน 10 คน และจะให้เวลาในการเตรียมตัวก่อนสอบ ประมาณ 3 สัปดาห์ สำหรับค่าสมัครสอบ คิดเพียง 140 เหรียญแคนาดา หรือประมาณ 4,500 บาท ผู้ที่สนใจต้องการสอบ ก็สามารถโทรมาแจ้งชื่อได้ที่เบอร์ 02-2670535 หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ www.cael.ca หรือหากต้องการทราบเกี่ยวกับการศึกษาที่แคนาดาก็สามารถไปค้นหาข้อมูลได้ที่ www.studycanada.ca/thailand รวมทั้งหากจะมาที่ศูนย์การศึกษาแคนาดา ทางเราก็มีข้อมูล และซีดี ให้ศึกษา หาข้อมูลมากมาย โดยศูนย์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 12 ของอาคารบุญมิตร ถนนสีลม กทม.”
นอกจากนี้คุณสุรชิต ยังเสริมอีกว่า คนที่คิดจะไปเรียนที่แคนาดา มักไม่ผิดหวัง เพราะประเทศแคนาดามีคุณภาพการศึกษาสูง เป็นประเทศที่น่าเรียนจริง ๆ มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้แคนาดา ยังเป็นประเทศที่ประกอบด้วยฝรั่งและคนเอเซีย ทำให้นักเรียนไทยที่ไป จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ตรงกันข้ามกลับเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ทางด้านนิสัยของคนแคนาเดี้ยน ก็ไนซ์ ตัวอย่างที่คนไทยเห็นได้อย่างชัดเจนก็คงจะเป็น นาตาลี เกลโบว่า นางงามจักรวาล ปี 2005 ที่กำลังเป็นข่าวในเมืองไทยอยู่ขณะนี้ เพราะเธอดูดี และยังสื่อวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ได้ดีอีกด้วย
เรื่องของภาษาอังกฤษ ในแคนาดาเป็นภาษาที่พูดกันทั่วประเทศ และเป็นสำเนียงของเนทีฟ สปีคเกอร์อย่างแท้จริง เพราะว่าคนแคนาดาจะพูด 2 ภาษา คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส แต่ก็มีแค่มณฑลคิวเบคที่เดียวที่พูดฝรั่งเศส แต่ถ้าไปเรียนที่นั่นแล้วฟังฝรั่งเศสไม่ออก เขาก็จะตอบเป็นภาษาอังกฤษ
เปิดใจผู้สอบ Cael Test
ส่วนเหตุที่เลือกไปเรียนที่แคนาดา ปาล์มมี่ บอกว่า เพราะเป็นประเทศที่ปลอดภัย ค่าใช้จ่ายประหยัดพอสมควร ยิ่งเมื่อเทียบกับสหรัฐ ที่นี่มีคุณภาพทางการศึกษาพอกัน หรืออาจดีกว่าด้วยซ้ำไป อีกอย่างคนแคนาดาก็ค่อนข้างเป็นมิตร ไม่เหยียดผิว เพราะที่นั่นมีคนเอเซียอยู่เยอะ
ปาล์มมี่ แนะนำน้อง ๆ หรือผู้ที่สนใจไปเรียนแคนาดาว่า ควรเตรียมตัวเรื่องภาษาให้ดี เตรียมตัวสอบเยอะ ๆ และก็ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยของเขา ดูว่าเหมาะสมกับเราเพียงใด เรื่องนี้คนที่สนใจยังสามารถมาขอคำแนะนำได้ที่ศูนย์การศึกษาแคนาดาแห่งนี้ ได้ด้วย
ภัทรภาค รังษีกิจโพธิ์ หนุ่มเอิร์ธ ที่ผ่านประสบการณ์การทำงานมาหลายปี หลังจากจบวิศวะจุฬา บอกว่า มั่นใจ 50-50 ครับ สำหรับการสอบ Cael Test ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะห่างจากสนามสอบไปนาน แต่ก็พอใจในระดับหนึ่ง ต้องลุ้นผลอีกที ส่วนถ้าให้เปรียบเทียบกับโทเฟล ไอเอลท์ส แล้ว เห็นว่า โดยรวม Listening ยาวกว่าโทเฟลเยอะมาก แต่ Reading ง่ายกว่า คือเนื้อหาเยอะกว่า ส่วนง่ายคือ เรื่องคำถามที่ค่อนข้างตรง ๆ ไม่ค่อยเน้นการวิเคราะห์เท่าไหร่ ส่วน โทเฟล กับไอเอลท์ส นั้นวิเคราะห์มาก เน้นความหมาย และการสื่อความ
“มูลเหตุที่เลือกไปเรียนที่แคนาดา เพราะประทับใจคนแคนาเดี้ยนมากที่สุด ตนเองเคยทำงานบริษัทน้ำมัน พบคนต่างชาติมากมาย แต่คนแคนาเดี้ยนไม่เหยียดผิว ประเทศเค้าก็สวยงาม ไม่มีปัญหาการก่อการร้าย ใจจริงแล้วอยากไปอยู่สบาย ๆ เงียบ ๆ มากกว่า จริง ๆ แล้วก็เลือกแคนาดาไว้ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ แล้ว โดยตั้งใจจะไปเรียนโททางด้านวิศวะฯ โดยมอง ๆ มหาวิทยาลัยอยู่ประมาณ 3 แห่ง คือ University of Alberta,University of Regina และ Dalhousie University และหากเป็นไปได้ด้วยดี ก็อาจต่อ Ph.D ด้วยเลย
อยากแนะนำน้อง ๆ หรือคนทั่วไปที่สนใจเรื่องเรียนต่อแคนาดาว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะเดี๋ยวนี้โลกมันแคบ มันเป็นโลกาภิวัฒน์ เราต้องติดต่อกับคนต่างชาติมากขึ้น จึงต้องพยายามเปิดโลกทัศน์ให้กว้าง ไม่ใช่รู้แต่เรื่องเมืองไทยอย่างเดียว และภาษาก็จะทำให้เราได้ทำงานที่ดี มีรายได้มากขึ้น คนที่เรียนภาษาอังกฤษ ก็ต้องให้ต่อเนื่อง เช่นเรียนมหาวิทยาลัย ปี 2 ปี 3 หรือ ปี 4 หากไม่มีคอร์สภาษาให้เรียนอีก ก็ควรหาเรียนจากที่อื่น ๆ เช่นไปเรียน พูด อ่าน เขียน คือภาษาอังกฤษต้องเรียนให้ต่อเนื่อง อย่าให้ขาดช่วง แล้วก็จะประสบผลสำเร็จในที่สุดครับ”…
ข่าวประชาสัมพันธ์
13 ก.พ.2550 : พบตัวแทนจาก 2 มหาวิทยาลัยดัง Carleton University และ Saint Mary University ที่จะมาให้คำแนะนำฟรี ในเรื่องการศึกษา ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.ที่ศูนย์การศึกษาแคนาดา
10 มี.ค.2550 : งานนิทรรศการมัธยมศึกษา แคนาดา
11 มี.ค.2550 : งานนิทรรศการอุดมศึกษา แคนาดา
27-28 ต.ค.2550 : งานศึกษาต่อแคนาดา(งานใหญ่ประจำปี)