College&Uในจีนเพิ่มเป็นดอกเห็ด
ปัจจุบันมีนักศึกษาที่เป็นเยาวชนที่อายุระหว่าง 18-22 ปี หรือ จำนวนประมาณ 30 ล้านคน ลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งหากย้อนหลังไปในปี 2007 มีสถาบันอุดมศึกษาระดับนี้รวมกันเพียงแค่ 20 แห่ง แต่ปัจจุบันพุ่งพรวดเป็น 630 แห่ง
ในบรรดาสถาบันการศึกษาเหล่านี้ วิทยาลัยเอกชนจะเน้นการเรียนการสอนไปที่การเพิ่มทักษะการปฏิบัติให้กับผู้เรียนมากกว่าทฤษฎี เช่น สอนเรื่องการรักษาความปลอดภัย หรือควบคุมการใช้เครื่องมือตรวจจับโลหะ สอนการซ่อมรถยนต์ เป็นต้น ในขณะที่มหาวิทยาลัยของรัฐ นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือ เครื่องจักรต่าง ๆ นอกจากนี้ สาขาเกี่ยวกับการจัดการโรงแรม หรือ Hotel Management ก็ถือเป็น 1 ใน 25 สาขาวิชาหลักที่เปิดสอนกันทั่วไปในสายอาชีวะ
จากบทวิเคราะห์ที่ได้มาจากผลสำรวจ ตีพิมพ์ในสื่อ The Hechinger Report พบว่าสถาบันการศึกษาเอกชนโดยทั่วไปจะเก็บค่าเรียน 1,500 เหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าสถาบันการศึกษาของรัฐที่เก็บเพียง 750 เหรียญสหรัฐ หรือ 1 เท่าตัวทีเดียว ขณะที่เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าคุณภาพการศึกษาต่ำกว่าสถาบันของรัฐเสียอีก ทั้งที่สถาบันเอกชนต่าง ๆ ล้วนอ้างว่า ไม่แสวงหาผลกำไร
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จบจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ หรือเอกชน ความมุ่งหวังของบัณฑิตเหล่านี้ส่วนใหญ่เหมือนกันคือต้องการทำงานให้กับภาครัฐ เพราะในจีนถือเป็นงานที่ดีที่สุด ปัญหาก็คือ เป็นเรื่องยากมากที่จะไคว่คว้าตำแหน่งงานราชการเหล่านี้ได้ เพราะเป็นที่ทราบดีว่า จำนวนคู่แข่งนั้นมีมากมายเหลือเกิน เป็นไปตามประชากรของประเทศที่ได้ชื่อว่ามีมากที่สุดในโลก แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะเบื้องต้นต้องมีดีกรีจากสถาบันการศึกษาเป็นใบเบิกทางไว้ก่อน เพื่อการันตีเรื่องรายได้ในอนาคต…
ที่มา http://philadelphia.cbslocal.com/
