บัณฑิตกรีซและสเปนกุมขมับ อัตราว่างงานสูงสุดในกลุ่มประเทศยูโรโซน
อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศยูโรโซน 17 ประเทศ ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ที่ 11.8% ในเดือนพฤศจิกายน 2555 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 11.7% เมื่อเดือนตุลาคม ขณะที่อัตราว่างงานในกลุ่มสหภาพยุโรปยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 10.7%
ยูโรสแตท หน่วยงานด้านการวิจัยและเก็บสถิติของสหภาพยุโรป เปิดเผยตัวเลขอัตราการว่างงานในกลุ่มยูโรโซน เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าอยู่ที่ร้อยละ 11.7 หรือกว่า 18.8 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม และถือเป็นการทำลายสถิติอัตราการว่างงานโดยรวมของกลุ่มยูโรโซนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตหนี้ในภูมิภาค ขณะที่เมื่อเทียบทั้งกลุ่มอียู จำนวนผู้ว่างงานอยู่ที่มากกว่า 26 ล้านคน
สเปนยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดที่ 26.6% ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการคาดหมายว่าอาจจะต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรปในระยะยาวเพื่อป้องกันการล้มละลาย ตัวเลขดังกล่าวยังถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศเช่นกัน ขณะที่ชาติที่มีอัตราการว่างานสูงรองลงมา ได้แก่กรีซ ซึ่งมีตัวเลขผู้ว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 20
อัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวของยูโรโซน อยู่ที่ 24.4% และ 23.7% ในกลุ่มอียู โดยในกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี พบว่ากรีซมีอัตราสูงสุดถึง 57.6% ตามมาด้วยสเปน 56.5%
ขณะที่ประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำสุดในกลุ่มยูโรโซนคือออสเตรีย 4.5% ตามมาด้วยลักเซมเบิร์ก 5.1% และเยอรมนี 5.4%
เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนและกลุ่มอียูโดยรวมยังคงประสบกัยภาวะถดถอยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลของแต่ละประเทศพยายามหามาตรการเพื่อลดระดับหนี้สินที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี นายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวเมื่อวันจันทรฺ์ว่า เขาเชื่อว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านไปแล้ว
นายบาร์โรโซ เผยว่า จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากธนสคารกลางยุโรปสัญญาว่าจะรับซื้อหนี้สินของประเทศในยูโรโซนอย่างไม่จำกัด ซึ่งจะช่วยให้ประเทศที่ประสบวิกฤตสามารถกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ขอบคุณข้อมูล : มติชน, marxist.com