About India (The. 2)
Matters. .. การสมัครเรียนต่อที่อินเดีย
ในการสมัครเรียนต่อที่ประเทศอินเดียนั้น น้องๆต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้พร้อมครับ เพราะเป็นเอกสารที่จำเป็นในการศึกษาต่อ การสมัครเข้าเรียนต่อในอินเดีย จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะสถานศึกษาที่นี่มีกฏระเบียบ และวิธีรับสมัครแตกต่างกัน
ที่ว่าง่าย คือ สถานศึกษาหลายแห่ง เพียงกรอกใบสมัครและยื่นเอกสารให้ครบ ไม่ต้องยื่นผลสอบ TOEFL / IELTS / GRE / GMAT ใดๆ ทั้งสิ้น เสร็จแล้วกลับบ้านไปนั่งรอนอนรอจดหมายตอบรับ (
หรือตอบปฏิเสธ)
เท่านี้เอง
ที่ว่ายาก คือ สถานศึกษาบางแห่ง ต้องการเอกสารมากมาย ส่งใบสมัครพร้อมเอกสารแล้ว ต้องรอนัดสอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ สอบเสร็จ ต้องไปดูผลด้วยตัวเอง จดหมายตอบรับก็ไม่ส่งมาให้
ปัญหาของนักเรียนไทยส่วนใหญ่ คือ ไม่มีเอกสารที่สถานศึกษาต้องการ หรือมีไม่ครบ บางคนอุตส่าห์ขึ้นเครื่องบินมาสมัครเรียนต่อด้วยตัวเองถึงอินเดียแล้ว มั่นใจว่าพกเอกสารมาครบแน่ แต่ดันเป็นภาษาไทยซะงั้น (อ้าว ทำยังไงล่ะ) ดังนั้น เอาให้ชัวร์ๆ ขอให้เตรียมเอกสารเหล่านี้มาให้ครบก่อนที่จะเดินทางมาอินเดียนะครับ
1. หนังสือเดินทาง
ข้อนี้ต้องมีทุกคน เพราะมิเช่นนั้นจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ครับ
2. วีซ่าประเภทที่ถูกต้องในหนังสือเดินทาง
- ถ้าเข้ามาอินเดียโดยวีซ่านักท่องเที่ยว (Tourist) เพื่อมาสมัครเรียนต่อ เมื่อมีสถานศึกษาตอบรับแล้ว จะต้องเดินทางกลับเมืองไทย เพื่อขอวีซ่านักเรียนหรือวิจัย (Student/ Research) แล้วจึงกลับเข้ามาอินเดียใหม่จ้ะ เพราะทางการอินเดียจะไม่สามารถเปลี่ยนประเภทวีซ่าให้ได้ภายในประเทศ
- ถ้าคิดจะมาอินเดียเพื่อสมัครเรียนต่อ และเมื่อได้ที่เรียนแล้ว ไม่อยากเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อกลับเข้ามาใหม่ (ก็ประหยัดทั้งเงินและเวลานี่เนอะ) Forขอวีซ่านักเรียนแบบชั่วคราว (Provisional Student) จากสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยมานะจ๊ะ วีซ่าประเภทนี้มีอายุ 3 เดือน ถ้าภายใน 3 เดือน มีสถานศึกษาตอบรับ ก็สามารถขอเปลี่ยน เป็นวีซ่านักเรียนหรือวิจัยแล้วอยู่ต่อได้เลย แต่ถ้าพ้น 3 เดือนแล้ว ยังหาที่เรียนไม่ได้ ก็ต้องกลับเมืองไทยก่อนครับ
3. เอกสารทางการศึกษา
ไม่ว่าจะเป็นปริญญาบัตร วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร ระเบียนแสดงผลการศึกษา (transcript) ฯลฯ ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ สถานศึกษาในอินเดียไม่รับฉบับภาษาไทย เอกสารเหล่านี้ขอได้จากโรงเรียนหรือที่กระทรวงศึกษาธิการ (ติดต่อที่กลุ่มทะเบียนและสารสนเทศทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่ว่าจบสายสามัญหรือสายอาชีพ)
- หลังจากที่ได้เอกสารที่จำเป็นครบแล้ว ให้เอาไปรับรอง (ประทับตรา) ที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ และที่สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย ซอยประสานมิตร ทั้งสองแห่งก่อนหอบมาอินเดียครับ ที่แนะนำอย่างนี้เพราะว่าสถานศึกษาในอินเดียหลายแห่งกลัวว่านักเรียนต่างชาติจะยื่นเอกสารปลอม ตรวจสอบได้ยาก จึงต้องขอให้หน่วยงานภาครัฐรับรองด้วย สถานศึกษาในอินเดียบางแห่งขอให้สถานทูตออกเอกสารรับรองด้วยว่า ไม่ขัดข้องที่จะให้บุคคลสัญชาติไทยสมัครเข้าเรียนต่อ (No Objection Certificate) ซึ่งแม้ว่าสถานทูตเองจะพยายามชี้แจงว่า รัฐบาลไทยไม่ปิดกั้นโอกาสทางการศึกษาของพลเมืองไทย สถานทูตไม่เคยขัดข้องเลยหากคนไทยจะเดินทางมาเรียนต่อในอินเดีย But บางสถานศึกษาก็ยังยืนยันที่จะขอเอกสารอยู่นั่นแหละ
- สถานทูตไม่รับแปลเอกสารนะครับ ขอให้แปลมาให้เรียบร้อย จะแปลเอง หรือจ้างให้คนอื่น แปลก็ได้ แปลแล้วเซ็นรับรองความถูกต้องของคำแปล แล้วเอาไปให้กรมการกงสุลและสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยประทับตราก่อนเดินทางครับ (การประทับตราไม่ได้แสดงการรับรองความถูกต้องของคำแปล)
4. เอกสารอื่นๆ ที่สถานศึกษาต้องการ
เช่น ถ้าต้องการสมัครเรียนต่อปริญญาเอก อาจจะต้องยื่น โครงร่างงานวิจัยให้ภาควิชาพิจารณาด้วย หรือหากต้องการเรียนทางด้านศิลปะหรือการแสดง ก็ควรพกตัวอย่างผลงานมาด้วย เช่น อัลบั้มภาพวาด/ภาพถ่าย ซีดีบันทึกเสียง หรือดีวีดีบันทึก ภาพการแสดง
ถ้ามีเอกสารเหล่านี้พร้อมแล้ว ก็ติดต่อสถานศึกษาเพื่อยื่นใบสมัครได้เลยครับ อย่าลืมว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งเปิด-ปิดรับสมัครไม่พร้อมกัน ต้องยื่นใบสมัครก่อนหมดเขตด้วยครับ
* ติดตามตอนต่อไปตอนที่ 3 กับ การแนะนำมหาวิทยาลัยในอินเดียครับ
Thanks to the data. : Embassy of India.
ขอบคุณรูปภาพ : www.wikalenda.com
About Auther : ต้น ซุง Eduzones (609 Posts)International Education Columnist, Webmaster, Correspondent