ทำงานและเที่ยวในออสเตรเลีย 1 ปีง่ายๆกับ Thai WAH Club !
สวัสดีเพื่อนๆชาว Interscholarship.com และ Eduzones ทุกคนครับ พบกับผมต้นซุง Eduzones อีกครั้งหนึ่งแล้วนะครับ กับบทความดีๆที่มานำเสนอสาระการศึกษาและการใช้ชีวิตในต่างประเทศที่น่าสนใจ
ออสเตรเลียถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีนักเรียนไทยไปศึกษาต่อและนักธุรกิจไทยลงทุนทางธุรกิจกันเยอะ และเป็นประเทศในฝันของคนหลายๆคนในการไปเที่ยวในสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ชื่อดังอย่าง Sydney หรือ Melbourne ก็ตาม
มีหลายๆคนที่ขาดโอกาสในการไปต่างประเทศเพราะว่าต้องใช้ต้นทุนในการเดินทางและการใช้ชีวิตที่สูงพอสมควร หลายคนจึงท้อและหมดหวังในการเผชิญโลกกว้างยังต่างประเทศซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะเปิดประสบการณ์เราในการได้ฝึกฝนตนเองด้านการเอาตัวรอด การฝึกภาษาอื่นๆนอกจากภาษาไทยและเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมที่น่าสนใจอื่นๆอีกด้วย
ผมได้พบกับโครงการหนึ่งที่น่าสนใจมากครับ สำหรับผู้ที่มีความใฝ่ฝันอยากลองใช้ชีวิตในต่างประเทศด้วยต้นทุนการเดินทางที่ไม่ยากเย็นอะไรนัก กับ โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างรัฐบาลไทยและออสเตรเลีย หรือหลายๆคนอาจคุ้นเคยกันในชื่อ Work and Holiday (WAH) แล้ว Work and Holiday คืออะไร ? ….
Work and Holiday Visa หรือที่เรียกกันย่อๆว่า WAH คืออะไร?
Work and holiday เป็นโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างรัฐบาลไทยและออสเตรเลีย โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 โดย ณ ตอนนั้นมีโควต้าให้ผู้เข้าร่วมโครงการ 100 คน อีกสองปีต่อมาเพิ่มเป็น 200 คนและล่าสุดในปี 2552 ได้เพิ่มเป็น 500 คน ( และยังคง 500 คน มาถึงปัจจุบัน) โครงการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี ได้ไปลองใช้ชีวิตในออสเตรเลียเป็นเวลาหนึ่งปี โดยเยาวชนเหล่านี้ต้องมีผลภาษาอังกฤษอยู่ในระดับพอใช้และจบการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรีครับ สำหรับระดับภาษาอังกฤษวัดกันโดยใช้ผลสอบ IELTS = 4.5
คำว่า “ลองใช้ชีวิต” เป็นคำศัพท์ที่ คุณเกมส์ Webmaster ผู้เป็นเสมือนกูรูและผู้ให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อและการใช้ชีวิตในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพี่คนหนึ่งที่ผมคอยปรึกษาเรื่องการเรียน การใช้ชีวิตในออสเตรเลียอย่างสม่ำเสมอ เขียนขึ้นมาเองเพราะรู้สึกว่าวีซ่านี้เหมาะกับคนที่จะมาเป็นครั้งแรกครับ คือให้เรามาลองดูว่าเราชอบประเทศนี้รึเปล่า ชอบอยู่มั้ย อยากอยู่ต่อมั้ย ทีนี้มาดูรายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับวีซ่ากันดีกว่าว่าเขาอนุญาตให้เราทำอะไรได้บ้าง
ระหว่างหนึ่งปีที่ถือวีซ่านี้เราสามารถทำได้ทั้งทำงาน เรียน หรือแค่เที่ยวเล่นเฉยๆ โดยจะมีข้อจำกัดดังต่อไปนี้
• ทำงาน สามารถทำงานกับนายจ้างคนเดียวกันได้ไม่เกิน 6 เดือน
• เรียน สามารถลงเรียนในออสเตรเลียได้ไม่เกิน 17 สัปดาห์
• ท่องเที่ยว ไม่มีข้อกำหนดในการท่องเที่ยวครับ สามารถเที่ยวได้ตลอดเวลา 1 ปีถ้ามีเงินเพียงพอจะมาเที่ยวอย่างเดียวก็ไม่ว่ากัน
วีซ่านี้ค่อนข้างใหม่สำหรับประเทศเราครับ แต่สำหรับประเทศที่เขาเศรษฐกิจดีๆกันในยุโรปและเอเชีย เช่น อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น เขามีวีซ่าคล้ายๆกันที่เรียกว่า Working Holiday Visa ซึ่งจะต่างกันตรงที่เขาสมัครได้ง่ายกว่าและจะต่อวีซ่ารอบสองได้ด้วยเรียกว่า 2nd Working Holiday Visa ซึ่งจะต่อได้โดยการไปทำงานที่เขากำหนดไว้สามเดือนครับ
บรรยากาศการอบรมโครงการ WAH ของ Thai Wah Club ร่วมกับ British Council Thailand
รู้จักกันไปคร่าวๆแล้ว ทีนี้มาดูคำถามที่ถูกถามบ่อยๆหรือข้อเข้าใจผิดที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า Work and Holiday กันดีกว่าครับ…
1.โครงการ Work and Holiday กับ โครงการ Work and Travel เหมือนกันมั้ยคะ?
คุณเกมส์ : ส่วนตัวผมไม่มีประสบการณ์ Work and Travel ครับ แต่จากที่ทราบจากเพื่อนๆที่ไปมาก็เป็นโครงการที่ไปทำงานในต่างประเทศเป็นเวลาสั้นๆ โดยทั่วไปก็จะได้งาน ได้สัมภาษณ์งานเรียบร้อยก่อนไปซึ่งตรงนี้จะมีเอเจนต์ดำเนินการให้และเราก็เสียค่าดำเนินการให้เค้าไป
ขณะที่ Work and Holiday จะเป็นโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน โดยผู้ที่ได้รับวีซ่าในปีนั้นๆจะมีสิทธิ์ทำงาน เรียน และท่องเที่ยวเป็นเวลาหนึ่งปีอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตามโครงการนี้ไม่มีการหางานให้ครับ
2 มีเอเจ้นต์รับทำเรื่องวีซ่านี้มั้ยคะ ทำยากมั้ย เสียเงินเยอะมั้ย?
คุณเกมส์ : ถ้าถามว่ามีมั้ยตอบว่ามีครับ แต่จริงๆแล้วมันผิดกติกาและวัตถุประสงค์ของวีซ่านี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ได้รับการปฏิเสธวีซ่าได้ครับถ้าโดนจับได้ ดังนั้นแนะนำว่าให้ยื่นด้วยตัวเองจะดีกว่า เพราะไม่ได้ยากอะไรครับ
ค่าใช้จ่ายในการสมัครวีซ่านี้รวมถึงค่าตั๋วเครื่องบินและพอกเกตมันนี่ผมเขียนไว้ในบทความนี้ครับ
ค่าใช้จ่ายในการไปออสเตรเลีย
3 เวลาสมัครโครงการต้องใช้ผล IELTS ใช่มั้ยคะ ต้องใช้ General หรือ Academic คะ ?
คุณเกมส์ : สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบครับ แต่โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่พบว่าแบบ general ง่ายกกว่า
ดังนั้นถ้าจะสอบมาโครงการนี้เฉยๆ ก็สอบ general training ก็พอครับ
อย่างไรก็ตามถ้ามีแผนตั้งใจมาเรียนต่อหลังจากหมดวีซ่านี้สอบแบบ Academic ไว้ก็สะดวกดีครับ
4 แล้วถ้าไม่มีผลสอบ IELTS ได้มั้ยครับ?
คุณเกมส์ : ถ้าไม่มีผลสอบไอเอลท์มาและจบปริญญาตรีในไทย ก็ต้องเรียนจบปริญญาตรีที่สอนเป็นภาษาอังกฤษมาครับ
5 ผมอ่อนภาษาอังกฤษมากๆเลยครับ สอบแล้วได้ไม่ถึง 4.5 แน่นอน ทำยังไงดีครับ ?
คุณเกมส์ : ถ้าภาษาอ่อนมากๆคิดว่าสอบยังไงก็ได้ไม่ถึงจริงๆผมก็ยังอยากแนะนำให้ไปลองสอบดูก่อนครับ เพราะถ้าไม่ลองจริงๆ เราก็จะไม่รู้ จริงๆแล้วเราอาจจะได้ถึงก็ได้ แต่ถ้าลองแล้วยังไงๆก็ไม่ได้ แล้วอยากมาจริงๆมีสองทางเลือกครับ คือ ไปเรียนกวดวิชาสักพักแล้วค่อยไปลองสอบดูใหม่ ผมเชื่อว่ายังไงมันก็ต้องดีขึ้น ส่วนอีกทางเลือกสำหรับคนที่พร้อมทางด้านการเงินก็คือมาด้วยวีซ่านักเรียนแทนครับ
6 สมัครได้เมื่อไหร่คะ โครงการนี้ ?
คุณเกมส์ : โดยทั่วไปแล้ว โครงการจะเปิดรับในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาก็เปิดช้ากว่าปกติ ดังนั้นให้ติดตามข่าวดีๆครับ
โดยติดตามได้ใน
http://www.opp.go.th เวปของสท.
http://www.thaiwahclub.com เวปนี้เอง
http://www.aussiethai.com และเวปออสซี่ไทยครับ
นอกจากนั้นอาจสามารถเห็นการอัพเดทข่าวสารได้ในพันทิปห้องไกลบ้านเช่นกันครับ
7 ใช้เวลานานมั้ยครับกว่าจะได้วีซ่า?
คุณเกมส์ : ถ้าหลักฐานครบก็ไม่นานครับ แล้วแต่ความยุ่งของเจ้าหน้าที่ด้วยว่าช่วงนั้นมีเคสเยอะมั้ย อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์ครับ บางคน 2วันได้ก็มี
8 คนสมัครเยอะมั้ยครับปีนึง ต้องสอบแข่งกันมั้ย แล้วเค้าให้เราไปได้ปีละกี่คนครับ?
คุณเกมส์ : คนสมัครเยอะมั้ย ถ้าเทียบกับจำนวนนักเรียนที่มาในแต่ละปีอาจถือว่าไม่เยอะนะครับ
แต่ก็เห็นมาสมัครกันเต็มโควต้าทุกปีกัน ยิ่งปีหลังๆ เพราะโครงการเป็นที่รู้จักมากขึ้นครับ
ไม่ต้องสอบแข่งกันครับ เอกสารครบ ยื่นทัน ก็สามารถมาได้เลย
พูดถึงจำนวนโควต้าในแต่ละปี โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 มาถึงตอนนี้ (2552) ก็เป็นปีที่ 5แล้วครับ 2 ปีแรกให้มาปีละ 100 คน 2 ปีถัดมาให้มาอีกปีละ 200 คน และล่าสุดในปี 2552 ก็ได้โควต้าเพิ่มเป็น 500 คนครับ
9 ได้ยินมาว่าถือวีซ่านี้ต้องไปทำงานฟาร์มอย่างเดียวจริงมั้ยคะ?
คุณเกมส์ : ไม่จริงอย่างจริงจังครับ เราสามารถทำงานอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่เกินหกเดือนต่อหนึ่งนายจ้าง (จริงๆก็มีอาชีพที่เค้าห้ามอยู่เหมือนกัน แต่ว่ามักจะเป็นอาชีพที่เรามักจะไม่ทำกันอยู่แล้ว เช่น ช่างทำตุ๊กตา เป็นต้น)
10 เราถือวีซ่านี้แล้วจะให้แฟนติดตามเราได้มั้ยคะ?
คุณเกมส์ : ไม่สามารถทำได้ครับ เพราะว่าวีซ่านี้กำหนดให้เราเดินทางคนเดียว ไม่มีผู้ติดตาม
อนึ่ง คำว่าเดินทางคนเดียวไม่ได้แปลว่ามากับเพื่อนไม่ได้นะครับ จะมากับแฟนก็ได้เหมือนกันเพียงแต่ต้องขอวีซ่าของตัวเองมาแยกกันครับ
สำหรับผู้ที่มากับแฟน ไม่ว่าแฟนจะเป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ก่อนแล้ว หรือแฟนจะถือ Work and Holiday Visa มาด้วยกัน และยังไม่แน่ใจว่าจะกลับมาด้วยกันมั้ย ผมแนะนำว่าให้เก็บหลักฐานร่วมกันเอาไว้ก่อนครับ เผื่อวันหน้าเราจะกลับมาออสเตรเลียด้วยกันอีกก็จะได้มีหลักฐานพร้อมครับ
หลักฐานและขั้นตอนต่างๆสามารถดูได้จาก การยื่น visa ติดตามนักเรียนด้วยตัวเอง ครับ
11 เราถือวีซ่านี้แล้วสามารถเรียนภาษาได้มั้ยคะ ?
คุณเกมส์ : ตามกำหนดว่าเค้าให้เราเรียนได้ไม่เกิน 17 สัปดาห์ เราสามารถเรียนอะไรก็ได้รวมถึงภาษาด้วย
สำหรับคนที่เค้าวางแผนว่าจะเรียนโทกัน อาจจะลงเรียนภาษาแบบที่เรียกว่า EAP หรือ Direct Entry ก่อน ซึ่งทำให้ไม่ต้องสอบ IELTS แล้วเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยได้เลย อย่างไรก็ตามต้องเลือกมหาลัยและสถาบันภาษากันอีกทีนะครับ ไม่ใช่เลือกเรียนภาษาที่ไหนก็เข้ายูได้
พอเรียนจบก็สมัครเรียนโท จ่ายเงินไว้ บินกลับไทยต่อวีซ่าแปบเดียวผ่านครับ เพราะถ้ามาเรียนตรีขึ้นไปจะขอวีซ่าง่ายกว่าเยอะครับ
ที่ว่าง่ายกว่าเยอะคือไม่ต้องยื่นเสตทเม้นท์ และถ้าไม่อยากกลับเราอาจจะขอโดยบินไปประเทศใกล้เคียงก็ได้ครับ
อ่านเกี่ยวกับระบบการศึกษาและและคอร์สเรียนต่างๆได้ใน เรียนต่อ Australia ครับ
12 คนที่ถือวีซ่านี้ไปเรียนภาษากันเยอะมั้ยครับ?
คุณเกมส์ : ถ้าสำหรับเด็กไทยผมว่า ณ ตอนนี้ยังไม่เยอะครับ เพราะวีซ่านี้ยังใหม่สำหรับเราอยู่ แล้วเราค่อนข้างรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นวีซ่าที่น่าจะเก็บเงินได้เยอะถ้ามาด้วยวีซ่านี้ แต่สำหรับหลายๆประเทศที่เค้าถือมีกันมานานแล้ว เค้าก็จะมาเรียนแล้วหางานกันครับ
โดยทั่วไปเด็กเกาหลี ญี่ปุ่น อาจจะเริ่มจากโรงเรียนภาษาก่อนจากนั้นก็ค่อยๆไปหางานทำในภายหลังหลังจากได้ภาษาแล้ว เด็กยุโรปก็มีมาเรียนภาษาก่อนครับ เด็กจากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษอยู่แล้วก็จะไม่มีความจำเป็นต้องเรียนภาษาแต่อย่างใด เค้าก็อาจจะทำงานไปเที่ยวไปครับ
ถ้าถามว่าเรียนดีมั้ย มันก็ต้องดีแหละครับ ถ้าเราพร้อมทางด้านการเงิน แต่ถ้าไม่พร้อมก็ไว้เก็บเงินแล้วค่อยเรียนทีหลังก็ได้ครับ ถ้าอยากเรียน
สำหรับข้อดีของการเรียนภาษาตั้งแต่ไปถึงใหม่ๆก็คือ
- ได้เพื่อน ได้ภาษา ทำให้มีโอกาสในการหางานมากขึ้น มีโอกาสได้งานที่ดีกว่าไปใหม่ๆ
- รร.หลายๆที่มีบริการหางานให้นักเรียนด้วยซึ่งก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมว่ากันไป
ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการนัดมาสังสรรค์กันก่อนไปออสเตรเลีย จัดที่ Beyond Study Center (ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อออสเตรเลีย)
13 ผมอยากไปเก็บเงินเรียนโทครับ จะเก็บเงินได้พอค่าเรียนโททั้งหมดมั้ยครับ?
คุณเกมส์ : ถามว่าจะเก็บเงินพอค่าเรียนโททั้งหมดเลยมั้ยผมว่าคงต้องทำงานหนักกันจริงจังเหมือนกันครับ
คิดกันคร่าวๆว่าค่าเทอมเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่เทอมละประมาณ 10,000 เหรียญต่อเทอม (ในบางมหาลัยอาจจะถูกกว่านี้หรือแพงกว่านี้ก็มีครับ ถูกที่สุดราวๆ 8,000 AUD แต่ผมยกตัวอย่างกลางๆให้) สมมติคอร์สเรียนโท 1 ปี ค่าเรียนประมาณ 20,000 เหรียญ สมมติคิดกันว่ามาเดือนแรกยังไม่ได้งานจริงจัง เราจะคิดเงินเก็บจาก 11 เดือน ซึ่งก็คือ 44 สัปดาห์ หารมาเป็นต่อสัปดาห์จะต้องเก็บได้ 454 เหรียญเป็นอย่างน้อย อันนี้ยังไม่รวมค่ากินอยู่ นั่นแปลว่าจะต้องมีรายได้ไม่น่าจะต่ำกว่า 600 เหรียญต่อสัปดาห์ครับ ซึ่งถ้าขยันทำงานก็เป็นไปได้ครับผมถ้าขยัน อย่างไรก็ตามเมือมาถึงจริงๆแล้วความไม่แน่นอนมันจะเยอะครับ ไม่ได้เป็นไปตามแผนทุกอย่าง สมมติว่าเราว่างงานเพิ่มไปอีกเดือนนึงเราก็จะต้องมาเก็บเพิ่มอีก เกือบ 2000 เหรียญแล้วครับ
ดังนั้นส่วนตัวผมแนะนำวิธีที่ไม่กดดันมากจะดีกว่า โดยให้เก็บเงินให้พอเรียนค่าเทอมแรก กับค่าเรียนภาษาในกรณีที่ไอเอลท์ยังไม่ถึง 6.0-6.5 แล้วก็มาลุยต่อดีกว่าครับ
14 ไปครั้งแรก ภาษาไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ ไปเมืองไหนดีคะ?
คุณเกมส์ : ไปเมืองไหนอันนี้แล้วแต่ชอบเลยครับ ถ้าชอบเงียบๆ ชอบธรรมชาติก็ไปเมืองเล็กๆหน่อย ชอบแสงสีก็อาจจะมา Sydney เป็นต้น อย่างไรก็ตามที่ว่าภาษาไม่ดีมี 2 ทางเลือกครับ
14.1) เลือกไปเมืองใหญ่ๆ เพราะคนไทยเยอะมีอะไรก็อาจจะช่วยเหลือกันได้
14.2) เลือกเมืองเล็กๆแบบคนไทยน้อยๆไปเลย แล้วไปฝึกตัวเองเอา บังคับให้ได้ภาษาไปในตัวครับ
ข้อดีข้อเสียต่างกันไปครับแต่ละเมือง ไม่มีที่ไหนดีกว่ากันแล้วแต่ชอบมากกว่าครับ อย่างไรก็ตามการรู้จักเพื่อนๆไว้มีข้อดีเสมอ เพราะส่วนมากการที่เราจะได้งานก็มักจะมาจากคอนเนคชันนี่แหละครับ ยังไงก็พยายามหาเพื่อนๆพี่ๆในเวปนี้ไว้ครับ
15 ถือ Student Visa อยู่ อยากเปลี่ยนเป็น Work and Holiday Visa ทำเรื่องที่ออสเตรเลียเลยได้มั้ยคะ?
คุณเกมส์ : ไม่ได้ครับ ต้องกลับไปทำที่ไทย ผมเองก็ถือวีซ่านักเรียนก่อนสมัคร Work and Holiday ครับ
ถ้าจะสมัครก็ทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อยซะก่อน เวลาสมัคร Work and Holiday เค้าจะไม่ได้สงสัยว่าเราจะเปลี่ยนวีซ่าทำไมครับ
16 มาอยู่ที่ออสแล้ว เราสามารถทำงานกับนายจ้างเดียวเกินหกเดือนได้มั้ยครับ ไม่อยากเปลี่ยนงานเลย?
คุณเกมส์ : เราสามารถขออนุญาตทำงานเกิน 6 เดือนได้ โดยเขียนจม.ไปขอที่ Global Accessing Unit ครับ
Global Processing Unit Global Processing Unit
3 Lonsdale Street or PO Box 717
Braddon ACT 2612 Canberra City ACT 2601
โดยให้ส่งไปก่อนที่จะครบ 6 เดือน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตามการที่เค้าจะต่อให้เรามักจะต้องมีเหตุผลสำคัญจริงๆ เช่นเค้าหาคนแทนไม่ได้จริงๆ และต้องใช้ skill ที่เรามีด้วย และเค้ามักจะให้เราทำต่อแค่ไม่นานครับเป็นวันหรือสัปดาห์เท่านั้น ไม่ได้ให้ทำอีกหกเดือนต่อไป
17 เห็นเพื่อนญี่ปุ่นถือเวิร์คกิ้งฮอลิเดย์ไปทำงานฟาร์มกันแล้วต่อวีซ่าได้ อยากต่อบ้างทำยังไงคะ?
คุณเกมส์ : วีซ่าของเด็กญี่ปุ่นจะเป็นอีกซับคลาสนึงครับ เรียกว่า Working Holiday (Subclass 417) ขณะที่ของเราคือ Work and Holiday (Subclass 462) จะมีข้อแตกต่างกันเล็กๆน้อยๆ (ซึ่งเราอยากให้เหมือนกันมากกว่า) เช่น
17.1 ) เวลาสมัคร Working Holiday สามารถสมัครออนไลน์ได้ ไม่ต้องใช้ IELTS และปริญญาบัตรแต่อย่างใด ในขณะที่ของเราต้องผ่านสท. ต้องมี IELTS และต้องจบปริญญาตรี จากนั้นถึงไปยื่นวีซ่าได้ครับ (น่าอิจฉาจริงๆ)
17.2 ) หลังจากทำงานในแอเรียที่กำหนดครบ 3 เดือน ผู้ถือ Working Holiday Visa สามารถต่อ Visa เป็น 2nd Working Holiday Visa ได้ ขณะที่ Work and Holiday ไม่สามารถทำได้ครับ
18 อยู่มาจะครบปีแล้วเราสามารถสมัครเรียนโทแล้วต่อวีซ่าที่นี่เลยได้มั้ยคะ?
คุณเกมส์ : ถ้ามีผล IELTS พร้อมสามารถสมัครได้เลยครับ โดยขั้นตอนการขอวีซ่านักเรียนทั่วไปคือ หนึ่งทำการสมัครโดยยื่นหลักฐานไปยังมหาวิทยาลัย (ผ่านเอเจนต์หรือไม่ผ่านก็ได้ แต่ผ่านจะสะดวกกว่าและจ่ายเงินเท่ากัน –อย่างไรก็ตามต้องเลือกเอเจนต์ดีๆนะครับ) ขั้นตอนที่สองคือ หลังจากได้รับการตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยแล้ว เราจะได้ Letter Of Offer มา จากนั้นจะต้องชำระเงินเพื่อขอ CoE (Confirmation of Enrollment) เพื่อนำไปใช้การยื่นวีซ่าต่อไป
อย่างไรก็ตามเนื่องจากทุกคนที่ถือวีซ่านี้จะติด condition 8503 – No Further Stay ทำให้ไม่สามารถสมัครวีซ่านักเรียนที่ออสเตรเลียได้ครับ ต้องออกนอกประเทศไปสมัครมาอีกทีนึง
19 ไม่อยากกลับไทย มีทางต่อวีซ่ามั้ยครับ ?
คุณเกมส์ : มีหลายทางที่จะต่อวีซ่าได้ เช่น เรียน หรือหานายจ้างสปอนเซอร์ได้ แต่เนื่องจาก condition 8503 ทำให้ไม่สามารถต่อวีซ่าในออสเตรเลียได้ครับ มี 2 วิธีหลักๆที่จะไม่ต้องกลับไทย (แต่ก็ต้องออกนอกประเทศอยู่ดี อาจจะบินไปนิวซีแลนด์แทน) คือ
ขอวีซ่านักเรียน subclass 573 (higher education) – หมายถึง คอร์สเรียนตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป
หรือหานายจ้างสปอนเซอร์ให้ได้แล้วขอ Business Long Stay Visa (subclass 457)
20 ขอเวิร์คฮอลิเดย์ออสเตรเลียแล้วปีหน้าขอของนิวซีแลนด์บ้างได้มั้ยครับ?
คุณเกมส์ : ได้ครับ ไม่ได้ห้ามไว้แต่อย่างใด มีแผนการขอวีซ่าทั้งสองมาให้ดูกันด้วยครับ คลิกที่นี่เลย เรื่องของ”แป๋ม”
**[update]อนึ่ง ในปี 2553 เป็นปีแรกที่สท. เปิดรับสมัครผู้สนใจโครงการ Work and Holiday Australia และ Working Holiday New Zealand คนละวันกัน ทำให้หลายๆคนสมัครได้ทั้งสองที่โดยไม่ต้องวางแผนอะไรเยอะครับ แค่ไปเช้าๆสองวันและหลักฐานครบก็โอเคแล้ว
ถ้าเพื่อนๆยังมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเพิ่มเติม ติดตามต่อได้ที่นี่เลยครับ : Work and Holiday (เพื่อนๆที่สนใจโครงการดีๆแบบนี้รอไปออสเตรเลียอยู่นะครับ ^^) หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ Facebook โครงการ Thai Wah Club อีกทางหนึ่งครับ