อังกฤษยังเข้มงวดนักศึกษาต่างชาติเข้าเมือง
อังกฤษ ที่ได้ชื่อว่ามีมหาวิทยาลัยสาขาอยู่ต่างแดนมากที่สุดชาติหนึ่ง ยังคงมีท่าทีที่จะไม่เปิดรับนักศึกษาจากต่างประเทศให้หลั่งไหล่เข้าไปศึกษาในประเทศตนได้ง่าย ๆ นัก ล่าสุด รมต.ที่ดูแลด้านคนเข้าเมือง Damian Green ชี้ว่า หากจะมาเรียนที่นี่ต้องเป็นประเภทหัวกะทิเท่านั้น เพราะแดนผู้ดีอังกฤษเน้นด้านคุณภาพมากกว่าปริมาณ
การหลั่งไหลเข้าเมืองเพื่อการศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ แม้จะเป็นผลดีทางด้านเศรษฐกิจ แต่ก็ควรเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย หมายความง่าย ๆ ว่า ถ้าได้เงินจากการมีนักเรียนต่างชาติมาก ๆ แต่ก่อให้เกิดปัญหาสังคม ก็ถือเป็นสิ่งที่อังกฤษไม่จำเป็นต้องมีหรอกนะ ท่าน ดาเมียน กรีน เน้นย้ำ
แนวคิดเช่นนี้ ตอกย้ำให้เห็นว่าผู้บริหารในรัฐบาลอังกฤษอีกรายหนึ่งแล้ว ที่ไม่ได้คำนึงถึงรายได้ของประเทศจากธุรกิจการศึกษา ที่ดูดเงินจากนักเรียนต่างชาติในปี ค.ศ.2011 มากถึงประมาณ 8.4 พันล้านปอนด์(กว่า 411 พันล้านบาท) แต่ในปีหลัง ๆ มานี้ อังกฤษกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการมีคนต่างชาติในชุดนักศึกษาเข้ามาในประเทศมากเกินไป แม้ว่าจะเข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม จึงเริ่มเข้มงวดในเรื่องคุณภาพของนักศึกษามากกว่าจำนวน
Mr.Green กล่าวอีกว่า อังกฤษจำเป็นต้องเน้นความสำคัญที่“focus on quality, rather than quantity”.โดยในหลักการ คัดเลือกนักศึกษาต่างชาติเข้าเมือง ควรใช้มาตรฐานที่เข้มข้นแบบเดียวกับการตรวจคนที่จะอพยพเข้ามาทำงานในประเทศเลยทีเดียว
มาตรการที่จะถูกนำมาใช้ก็คือระบบวีซ่าแบบใหม่ที่ให้สิทธิเฉพาะนักเรียนต่างชาติที่มีผลการเรียนเป็นเลิศ(แบบสุด ๆ) หรือ High-quality genuine students เท่านั้นที่จะได้รับการรับรองในการเข้ามาเรียนในสถาบันในอังกฤษ
แนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงวีซ่านักเรียนของท่านรัฐมนตรีด้านการเข้าออกเมืองครั้งนี้ ก่อให้เกิดความกังวลกับหลาย ๆ ฝ่ายในอังกฤษว่า จะลดจำนวนนักเรียนต่างชาติลงแบบฮวบฮาบ จากประมาณที่มีอยู่ปีละ 250,000 คน ให้เหลือแค่ระดับหลักหมื่นเท่านั้น…
