“นู”จิรรัจฎ์กับทุนไปเรียนที่เกาหลี
จิรรัจฎ์ บุตรเนียร ผู้รักการเรียนที่แปลกไปกว่าคนทั่วไป ด้วยการเลือกไปเรียนเกาหลี โดยนูจบม.ปลายสายวิทย์คณิตฯ จากโรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี จากนั้นบินไปแดนกิมจิอย่างรวดเร็ว โดยไม่รอ Admission เมืองไทยเพื่อเรียนปริญญาตรีที่ Solbridge Internation School of Business ถึงปีนี้เขาเรียนไปแล้ว 1 ปี
“ผมคิดว่าคนไปเรียนเกาหลีน้อยนะ มันเป็นความแปลกและท้าทาย เพราะส่วนใหญ่นักเรียนไทยก็จะไปเรียนที่อเมริกา ยุโรป หรือ ออสเตรเลีย เรื่องเรียนที่เกาหลีจริง ๆ ถือว่าน่าสนใจ และการที่ได้รู้ภาษาเกาหลีก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เปรียบในการทำงานในอนาคตเช่นกัน ช่วงที่จบม.ปลายนูได้สอบโอเน็ตเท่านั้น เพราะที่เกาหลีเปิดเทอมเร็วกว่า จึงไม่มีโอกาสลุ้นเรื่องคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยบ้านเรา กอปรกับการไปเรียนที่เกาหลีครั้งนี้ ก็ได้ทุนส่วนหนึ่ง ทำให้เป็นโอกาสอันดีที่หาได้ยาก แรก ๆ ก็ไม่ได้รู้จักสถาบันเท่าไหร่ ดูทางอินเตอร์เน็ต และมาสอบถามจากตัวแทนสถาบันในเมืองไทย ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น รู้ว่าอยู่ในเมือง Daejeon ของเกาหลีใต้
สถาบันของเขาเปิดมาได้ไม่นาน แต่มีมาตรฐาน นูไปเรียน BBA มาประมาณ 1 ปีแล้ว ได้เรียนรู้ในห้องเรียน และการใช้ชีวิตที่เกาหลี ทำให้มีความมั่นใจ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นการใช้ชีวิตระดับมหาวิทยาลัยครั้งแรก ก็ไปอยู่ต่างประเทศเลย โดยในโรงเรียนเขาจะใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนเป็นหลัก แต่ก็มีวิชาให้เลือกเรียนด้านเกาหลีเช่นกัน ก็รู้สึกสนุกกับการเรียน เพลงเกาหลีก็ฟังด้วย เพราะเราเรียนเกาหลีก็ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเกาหลี ไปที่ต่าง ๆ ก็ได้ใช้ภาษาของเขา เพราะคนเกาหลีมีไม่มากที่พูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนเรื่องการเรียนไม่ยากนัก หากเราตั้งใจ ก็สามารถทำเกรดได้ดี เอาตัวรอดได้”
นูยังเสริมอีกว่า ได้ทุนค่าเล่าเรียนที่ Sobridge รู้สึกว่าคุ้มค่ามาก เพราะเป็นช่วงที่สถาบันเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน จึงโปรโมตเพื่อรับนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนมากขึ้น ทำให้เป็นโอกาสที่ดี ส่วนเรื่องค่าครองชีพ ค่ากินอยู่ก็ไม่ถึงกับแพงมาก หากไม่ฟุ่มเฟือยก็พออยู่ได้ โดยเฉพาะหากเปรียบเทียบค่าเรียนที่นี่ที่ตกปีละประมาณแค่สี่แสนกว่า ก็ถูกกว่าที่อเมริกา และยุโรปมาก นูยังวางแผนอนาคต หลังจากจบปริญญาตรี จะหางานที่เกาหลีทำก่อน เพื่อเป็นการหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง และก็เพื่อพิสูจน์ความสามารถของเรา ในเรื่องงานนั้นที่เกาหลีใต้ปัจจุบันก็มีบริษัทต่างชาติมากขึ้น เด็กและเยาวชนของเขาก็เรียนภาษาอังกฤษกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่โรงเรียนปัจจุบันมีคนไทย 13 คน ก็ไม่เกาะกลุ่มกัน กระจาย ๆ กันไป เพราะทุกคนตระหนักว่า หากรวมกันมากก็จะมีผลต่อการพัฒนาภาษา และการเรียน สำหรับคำแนะนำทั่ว ๆ ไปกับคนที่อยากไปต่อยอดเรียนต่างประเทศนูบอกว่า
“ปัจจุบีนการเรียนต่างประเทศบางที่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเหมือนบางคนคิด หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายนัก สำหรับนูคิดว่า การเรียนเมืองนอกเป็นการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ส่วนการจะไปก็ควรเตรียมภาษาอังกฤษให้เก่งพอสมควร อย่างที่ Sobridge เขาก็จะมีการทดสอบ Toefl เพื่อวัดระดับผู้เรียนแม้ว่าจะสอบมาแล้ว ได้ 550 ตามที่กำหนดก็ตาม ส่วนสภาพอากาศที่เกาหลีอาจหนาวกว่าบ้านเรามากหน่อย อาหารก็แตกต่าง ก็เป็นสิ่งที่ผู้ที่จะไปเรียนเกาหลีจะค่อย ๆ ปรับตัวได้ไปเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ใครสนใจอยากรู้เกี่ยวกับสถาบันที่นูเรียน ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.solbridge.ac.kr