เด็กทุนกรอ.รอชี้ชะตามีนาคมนี้
เด็กกู้เงินกรอ.กว่า 100,000 แสนคน เตรียมรับทราบชะตากรรมภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังฝ่ายที่รับผิดชอบยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะใช้เกณฑ์ใดในการกำหนดคุณสมบัติ ผู้กู้จาก กยศ.
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงเรื่องเงินกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
โดยรมว.ศธ.กล่าวว่า เรื่องเงินกู้ กรอ.ต้องมีการทบทวนเพราะ กรอ.ไม่ จำกัดรายได้ แต่สามารถกู้ได้เฉพาะค่าเล่าเรียน ส่วน กยศ. ให้กู้ค่าครองชีพในวงเงิน ๒,๐๐๐ บาทต่อเดือน ซึ่งก่อนที่จะมี กรอ. นั้น กยศ. ให้กู้ทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ ในวงเงินประมาณ ๖๐,๐๐๐-๗๐,๐๐๐ บาท หากจะยุบรวม ๒ กองทุน ก็จะสามารถกู้ในแหล่งเดียวและได้ทั้งสองอย่าง เมื่อกรอ.เปิดโอกาสให้คนรวยกู้ได้และไม่มีค่าครองชีพ สิ่งที่แตกต่าง คือ การกู้ กรอ.ไม่ว่าจะเป็นคนรวย หรือคนจน ก็สามารถกู้ได้ ไม่มีเรื่องรายได้ครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ กยศ.ต้องมีรายได้ครอบครัวไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ถ้าจะมีผลกระทบอาจจะมีกับคนที่ครอบครัว มีรายได้เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท และเคยได้กู้แล้ว
รมว.ศธ.ได้หารือกับ รมว.กระทรวงการคลังในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นประเด็นเดียวที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า คนที่เคยกู้ กรอ. แล้ว จำเป็นจะต้องให้กู้ต่อเนื่องจนจบการศึกษา ถ้าจะให้ กู้ กยศ.เป็นแหล่งเงินกู้ จะให้กู้ในอัตราเดิมของ กรอ.หรือไม่ หรือจะให้กู้ในอัตราใหม่ในหลักเกณฑ์ใหม่ ซึ่งคนรวยจะไม่ได้กู้ รวมถึงคนที่มีรายได้เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ก็จะกู้ไม่ได้ ซึ่ง จะมีการชี้ขาดในเร็วๆ นี้ เพราะจะมีคนที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ ๑ แสนคน เนื่องจากคนเหล่านี้มีรายได้เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท และเป็นที่สงสัยว่าเดือดร้อนจริงหรือไม่ แต่ถ้าได้สิทธิการกู้มาก่อนแล้ว จะต้องตัดสินใจว่าถ้าจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อหากไม่ให้คนรวยกู้ คนที่กู้อยู่ก่อนแล้วจะให้สิทธิต่อไปหรือไม่ เพราะปีหน้าคนจำนวน ๑ แสนคนก็จะลดลงไปเรื่อยๆ และจะต้องมีการพิสูจน์ผู้ที่มีความเดือดร้อนจริงๆ
โดยจะมีการตั้งประเด็นกลั่นกรองใน ครม. อีกครั้งหนึ่ง และจะมีการประกาศเรื่องเกณฑ์การกู้ยืม ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๐