อินเดียทุ่มงบ2เท่าเร่งพัฒนาด้านวิทย์และเทคโนฯ
รัฐบาลอินเดียเตรียมทุ่มงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปสู่การพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดดในอีกห้าปีข้างหน้า เพื่อให้ก้าวทันกับประเทศกำลังพัฒนาสำคัญอื่น ๆ โดยเฉพาะจีนและบราซิล
รัฐบาลจะให้ทุนการศึกษามากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความสนใจที่ลดลงของนักเรียน ที่เรียนสาขาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์, วิทยาศาสตร์ประยุกต์และการวิจัย โดยเพิ่มงบประมาณสำหรับทุนการศึกษาและทุนหลังปริญญาเอกให้มากขึ้นกว่า 5 เท่าของระดับปัจจุบัน
กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะใช้งบประมาณ 150 พันล้านรูปี (340 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเพิ่มขั้น 0.6% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศในอีก 5 ปีถัดไป เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะดึงดูดนักศึกษาระดับหัวกะทิในสาขาวิทยาศาสตร์และการวิจัยเทคโนโลยี เพื่อจะช่วยทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางทางนวัตกรรม และรัฐบาลก็ต้องการนักวิทยาศาสตร์มาช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาของประเทศอินเดีย
Ashwani Kumar รัฐมนตรีว่าการกระทรวง รัฐวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า อินเดียเป็นชาติอันดับ 3 ในเรื่องอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก การจะเพิ่มงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในประเทศต้องคำนึงถึง ชาวอินเดียทั่วไปที่ต้องได้รับประโยชน์ ในหลาย ๆ ด้านที่ดีขึ้น ทั้ง เรื่องสุขาภิบาล สุขภาพ รวมทั้งเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน
เขายังกล่าวอีกว่า มีความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนผู้ที่จบระดับปริญญาเอกให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประเทศสามารถตอบสนองความต้องการในอนาคตสำหรับการวิจัยขั้นสูงในสาขาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์
ตามข้อมูลของ OECD หากเทียบอัตราส่วนต่อประชากรล้านคนแล้ว อินเดียมีนักวิจัยเพียง 119 คน ขณะที่จีนมี 1,564 สหราชอาณาจักรมี 2,706 คน สหรัฐอเมริกา 4,605 คน ไอซ์แลนด์ 6,807 คน
และหากดูในแง่ของจำนวนของนักวิจัยจัดจ้างในอัตราส่วนต่อนักวิจัยทั้งหมด 1,000 คน ปรากฎว่าอินเดียมีแค่ 24 เทียบกับจีน(115), ญี่ปุ่น (131) สหภาพยุโรป (231) และสหรัฐอเมริกา (324)
แหล่งข่าว : Mishra alya
ติดตามการเก็งคะแนน Admissions 2556 และทดลองใช้งานโปรแกรม EZ Plus+
ได้ที่นี่ >> EZ Plus+2013
เตรียมพบกับ มหกรรมการจัดอันดับ Admissions ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
Eduzones Expo 2013
Final Decision ตัดสินใจครั้งสุดท้าย เลือกคณะอย่างไร ไม่ให้พลาด
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ Eduzones Expo 2013
1 Comments on "อินเดียทุ่มงบ2เท่าเร่งพัฒนาด้านวิทย์และเทคโนฯ"