สกว.ให้ทุนวิจัยเชิงวิชาการปิดรับ30ธ.ค.52
สกว.ให้ทุนวิจัยเชิงวิชาการปิดรับ30ธ.ค.52
1.1 ทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัย (เมธีวิจัยอาวุโส สกว.)
1. ทุนวิจัยพื้นฐานจากความคิดริเริ่มของนักวิจัย แบ่งเป็น
เป็นทุนสร้างทีมวิจัย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนักวิจัยอาวุโสที่มีความสามารถ มีจริยธรรม มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติให้สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทางวิชาการสูงให้แก่ประเทศ โดยเน้นหนักในการพัฒนาทีมงาน พัฒนาผลงาน และพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่เพื่อสร้างศักยภาพเชิงปัญญาระยะยาวของชาติ ผู้รับทุนต้องไม่เป็นผู้บริหารระดับคณบดีขึ้นไป โดยผู้ได้รับทุนจะได้รับชื่อ “เมธีวิจัยอาวุโส สกว.” (TRF Senior Research Scholar)
ผู้ได้รับทุนจะได้เงินงบประมาณรวมไม่เกิน 7.5 ล้านบาท (2.5 ล้านบาท/ปี) สำหรับสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 6 ล้านบาท (2 ล้านบาท/ปี) สำหรับสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี
ทุนประเภทนี้ไม่ได้เปิดให้สมัคร แต่ใช้วิธีการสรรหาและเสนอชื่อ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะพิจารณาจากรายชื่อในกลุ่มต่างๆ เช่น รายนามศาสตราจารย์ในประเทศไทย รายนามนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น รายนามนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ รายนามผู้ได้รางวัลวิจัยดีเด่นของมหาวิทยาลัยต่างๆ รายนามนักวิจัยอาวุโสที่มหาวิทยาลัยเป็นผู้เสนอรายชื่อ และ รายนามคณาจารย์ที่มีผลงานทางวิชาการเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ หลังจากนั้นจะเรียนเชิญนักวิจัยผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน เขียนข้อเสนอโครงการวิจัยฉบับเต็ม เพื่อ สกว. จะส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินและใช้ประกอบการพิจารณาให้ทุนต่อไป
1.2 ทุนวิจัยองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นพื้นฐานต่อการพัฒนา (วุฒิเมธีวิจัย สกว.)
เป็นทุนวิจัยระดับกลางสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการวิจัยพอสมควร ผู้อยู่ในข่ายได้รับทุนต้องเคยมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติที่ทำในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เรื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและเป็นเจ้าของบทความชื่อแรกหรือเป็น corresponding author และมีผลรวมของ impact factor อยู่ในเกณฑ์ดีทั้งนี้ขึ้นกับสาขาวิชา เช่น มีค่าไม่น้อยกว่า 5.0 สำหรับวิทยาศาสตร์ชีวภาพและการแพทย์ ไม่น้อยกว่า 2.0 สำหรับวิทยาศาสตร์กายภาพและวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์จะไม่นำเกณฑ์ของ impact factor มาพิจารณา ผู้ได้รับทุนจะได้รับชื่อ “วุฒิเมธีวิจัย สกว.” (TRF Advanced Research Scholar)
ทุนวิจัยองค์ความรู้ใหม่มีวงเงินไม่เกิน 2,000,000 บาท ระยะเวลาของทุนไม่เกิน 3 ปี โดยเป็นค่าตอบแทนของหัวหน้าโครงการเดือนละ 15,000-25,000 บาท ตามคุณภาพและประสบการณ์ของผู้ขอรับทุน
1.3 ทุนพัฒนานักวิจัย (เมธีวิจัย สกว.)
เป็นทุนที่สนับสนุนการวิจัยแก่อาจารย์และนักวิจัยให้ทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก เป็นผู้ที่มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่เป็นเจ้าของบทความชื่อแรกหรือเป็น corresponding author (ผู้วิจัยสำหรับการติดต่อ) ไม่น้อยกว่า 1 เรื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยต้องเป็นงานวิจัยที่ทำในประเทศไทยและไม่ใช่ผลงานจากการทำวิทยานิพนธ์ และไม่เป็นผู้บริหารระดับหัวหน้าภาควิชาขึ้นไป ผู้ได้รับทุนได้ชื่อว่าเป็น “เมธีวิจัย สกว. (TRF Research Scholar)”
งบประมาณปีละ 400,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยแบ่งเป็นเงินค่าใช้จ่ายในการวิจัยปีละ 220,000 บาท และเป็นเงินสนับสนุนค่าครองชีพเดือนละ 15,000 บาท
1.4 ทุนพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัยของอาจารย์รุ่นใหม่ (สกว. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา)
เป็นทุนที่ สกว. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนอาจารย์รุ่นใหม่ให้ทำวิจัยได้อย่างต่อเนื่อง ผู้อยู่ในข่ายรับทุนคืออาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของ สกอ. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า มาแล้วไม่เกิน 5 ปี ไม่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารตั้งแต่ระดับหัวหน้าภาควิชาขึ้นไป
ทุนนี้มีวงเงินปีละไม่เกิน 240,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี เป็นเงินสนับสนุนค่าครองชีพเดือนละ 10,000 บาท
1.5 ทุนส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่
เป็นทุนที่มีเป้าหมาย หลักเกณฑ์การให้ทุน วงเงินทุนวิจัยและระยะเวลาดำเนินการเช่นเดียวกับทุนพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัยของอาจารย์รุ่นใหม่ แต่เปิดรับสมัครเฉพาะผู้สมัครที่ไม่ได้เป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของ สกอ. ซึ่งผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่ามาแล้วไม่เกิน 5 ปี อายุไม่เกิน 45 ปี และไม่เป็นผู้บริหารระดับหัวหน้าภาควิชาขึ้นไป และผู้สมัครต้องมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติอย่างน้อย 1 เรื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สำหรับสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์จะพิจารณาจากคุณภาพผลงานที่มีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
2. ชุดโครงการวิจัยพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Basic Research)
เพื่อสนับสนุนการสร้างผลงานวิจัยพื้นฐานที่เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศและสามารถต่อยอดผลงานวิจัยเพื่อประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ เชิงสาธารณะหรือเชิงนโยบายโดยมีชุดโครงการดังนี้
- สมุนไพร ยารักษาโรคและสารเสริมสุขภาพ เพื่อพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพไปใช้ประโยชน์เป็นยารักษาโรค สารเสริมสุขภาพ เช่น สารต้านมะเร็ง สารต้านการติดเชื้อ สารต้านการอักเสบ สารต้านไวรัส และสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
- การพัฒนาเกษตรยั่งยืน เพื่อพัฒนาระบบการผลิตอาหารที่ปลอดภัยและลดการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอนของการผลิตพืช โดยใช้สารอินทรีย์และ/หรือจุลินทรีย์ที่ปลอดภัยทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสนับสนุนการใช้ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยพื้นฐานมาต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อช่วยพัฒนาเกษตรยั่งยืน
- การผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการวิจัยและนำองค์ความรู้จากงานวิจัยพื้นฐานด้าน พันธุศาสตร์ประชากร ชีววิทยาการสืบพันธุ์ จุลชีววิทยา พยาธิชีววิทยา ระบาดวิทยาของโรคที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
- การผลิตสัตว์บกศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการวิจัยและนำองค์ความรู้จากงานวิจัยพื้นฐานด้านต่างๆ เช่นด้านพันธุศาสตร์ ชีววิทยาสืบพันธุ์ จุลชีววิทยา พยาธิชีววิทยา ระบาดวิทยาของโรคที่เกี่ยวกับสัตว์บก ตลอดจนเทคโนโลยีชีวภาพ ฯลฯ มาประยุกต์ใช้ในการเลี้ยงและเพิ่มผลผลิตสัตว์บกเศรษฐกิจ
- ชีววิทยาเซลล์ต้นกำเนิดและเวชศาสตร์การฟื้นฟูสภาวะเสื่อม เพื่อสนับสนุนการวิจัยพื้นฐานที่เกี่ยวกับกลไกการพัฒนา embryonic และ adult stem cell ไปเป็นเซลล์เป้าหมายและการประยุกต์ใช้
- นาโนศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการวิจัยพื้นฐานทางด้านนาโนศาสตร์ และ นาโนเทคโนโลยี ในศาสตร์กลยุทธ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการของประเทศ โดยเน้นศาสตร์ที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบ ควรทำ หรือ มีความจำเป็นต้องทำเพื่อสร้างฐานของนาโนเทคโนโลยีให้มั่นคง หรือเพื่อให้ทันกระแสเทคโนโลยีของโลก
- ชุดโครงการการผลิต การเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว และการแปรรูปอาหารเพื่อการบริโภคภายในประเทศ และเพื่อเป็นสินค้าส่งออกมูลค่าสูง เพื่อสนับสนุนการวิจัยพื้นฐานที่สร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาการผลิตวัตถุดิบ การเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว และการแปรรูปอาหารที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้ได้ปริมาณและคุณภาพของผลิตภัณฑ์สูงโดยเน้นความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งภายในและนอกประเทศ
3. โครงการการสร้างกำลังคนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของฝ่ายวิชาการ
เพื่อสนับสนุนให้นักวิจัยที่ทำวิจัยพื้นฐานและมีผลงานที่มีคุณภาพ ได้ทำวิจัยต่อยอดตามความต้องการและเงื่อนไขของภาคอุตสาหกรรม สามารถพัฒนาผลงานวิจัยในรูปผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการที่ภาคอุตสาหกรรมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ตลอดจนสร้างผลงานวิจัยที่สามารถจดสิทธิบัตรและค้นคิดสิ่งประดิษฐ์ที่มีนวตกรรมสูง
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ http://academic.trf.or.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายวิชาการ สกว. โทรศัพท์ : 0-2278-8251-9trfbasic@trf.or.th