วุฒิสภาร่วมกับสพฐ.จัดประกวดหนังสือ หนึ่งเล่มหนึ่งรัก ร่วมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เป็นพระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในวันบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ซึ่งเป็นประโยคที่ติดซึ้งตรึงใจปวงชนชาวไทยทุกคนมาจวบจนปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุด ยากที่จะหาพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกเสมอเหมือน พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจอันมากมายที่เปรียบเสมือนกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ความร่มเย็นกว้างไกลไปสู่พสกนิกรทั่วพื้นแผ่นดินไทย
พ่อเป็นผู้มีพระคุณมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม ควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ พระองค์ทรงเป็นพ่อตัวอย่างที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยปวงชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบมิได้ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็น “วันพ่อแห่งชาติ”
ในด้านการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในการพัฒนาการศึกษาของชาติเป็นอย่างยิ่ง ทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพลเมืองให้มีคุณภาพด้วยการให้การศึกษา เพื่อให้สามารถพึ่งตนเองได้และมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ทั้งส่วนบุคคลและประเทศชาติ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่อาณาประชาราษฎร์ตลอดมา ดังเห็นได้จากพระบรมราโชวาทด้านการศึกษาบางตอนที่ได้พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียน เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 ว่า
“…การศึกษาเป็นปัจจัยในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติและคุณธรรมของบุคคล สังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วนพอเหมาะกันทุก ๆ ด้าน สังคมและบ้านเมืองนั้นก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถธำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้ตลอด”
ในปีนี้วุฒิสภาได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดโครงการประกวดหนังสือ “หนึ่งเล่มหนึ่งรัก เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” ขึ้น เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รณรงค์และปลูกฝังจิตสำนึกความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรักและใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
การประกวดหนังสือ “หนึ่งเล่มหนึ่งรัก เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” มีการกำหนดให้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตโดยน้อมนำหลักธรรม พระบรมราโชวาท พระราชดำริ พระราชดำรัส และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเชื่อมโยงกับวิถีชีวิต ซึ่งแบ่งการประกวดออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
ส่วนรายละเอียดการประกวดนั้นแต่ละทีมต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ไปเอง โดยต้องจัดทำรูปเล่มหนังสือประกอบด้วย หน้าปก ปกใน ปกหลัง ส่วนที่บอกถึงที่มาของเรื่องหรือแรงบันดาลใจและวัตถุประสงค์ของหนังสือ เนื้อหาเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเอง ภาพประกอบต้องเป็นภาพวาด ส่วนการเข้าเล่มสามารถสร้างสรรค์ได้โดยอิสระ และต้องจัดทำผลงานตามรายละเอียดที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 6 ชั่วโมง นับจากเวลาเริ่มการประกวด
ส่วนขั้นตอนการคัดเลือกผลงานจากระดับเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ แล้วจึงนำไปคัดเลือกในระดับภาค คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ ขณะนี้ได้ทีมผู้ชนะการประกวดระดับเขตพื้นที่และระดับภาคเรียบร้อยแล้ว และจะนำทีมชนะเลิศทุกระดับของแต่ละภาคเข้าประกวดเพื่อคัดเลือกให้เป็นผู้สมควรได้รับรางวัลในระดับชาติ ณ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กรุงเทพฯ ในวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2554 นี้
หนังสือเป็นเครื่องมือที่ดีในการกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนสนใจและรักการอ่าน และการทำหนังสือเป็นการบูรณาการทักษะทางภาษา การฟัง พูด อ่าน แล้วนำมาสร้างจินตนาการถ่ายทอดโดยการเขียน ซึ่งเป็นการบูรณาการทักษะความรู้ได้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ และอาจจะเป็นการจุดประกายที่จะสานฝันให้แก่เด็กและเยาวชนต่อไป
“หนึ่งเล่มหนึ่งรัก เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” นับเป็นโครงการที่มุ่งให้เด็กและเยาวชนได้รับรู้ถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนำมาถ่ายทอดจัดทำเป็นหนังสือ เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณอันจะทำให้เกิดความรักเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทให้วัฒนาถาวรสืบไป.
ฟาฏินา วงศ์เลขา
ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์