ทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเพิ่มขีดความสามารถให้ “มิสเตอร์เตือนภัย” ส่งข้อมูลเข้าอุปกรณ์ดิจิทัลพกพา อีกทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดความชื้นและอุณหภูมิในอากาศ ส่งผลให้ระบบแม่นยำยิ่งขึ้น

      น.ส.นฤดีจิยะวรนันท์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น และคณะ ร่วมกันพัฒนาต่อยอดระบบเตือนภัยน้ำท่วม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และใช้งานสะดวกรวดเร็วขึ้น ล่าสุดได้พัฒนาให้ระบบสามารถแสดงข้อมูลผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่มีระบบจาวารองรับได้ไม่ต่างจากการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์

      ระบบเตือนภัยน้ำท่วมรุ่นแรกพัฒนาขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้รับทุนวิจัย 5,000 บาท จากโครงการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ระบบรุ่นแรกใช้เตือนภัยในรัศมี 10-15 กิโลเมตร ติดตั้งเซ็นเซอร์ 3 ตัว เพื่อตรวจวัดปริมาณน้ำฝน ความเร็วลม และระดับน้ำ จากนั้นส่งข้อมูลให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ หรือสมองกล เพื่อวิเคราะห์และประมวลผล ก่อนที่จะรายงานผลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ 

     ระบบเตือนภัยรุ่นสองทีมงานเพิ่มเซ็นเซอร์ให้ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ รวมทั้งปรับปรุงโปรแกรมแสดงผลให้ใช้ได้กับอุปกรณ์สื่อสารพกพาอย่าง พีดีเอ โทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ทีมงานยังวางแผนที่จะเพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษทางอากาศ เซ็นเซอร์ตรวจวัดความชื้นในดิน เพื่อเตือนภัยดินโคลนถล่ม ขณะนี้ได้พัฒนาเมนบอร์ดรับรองรับเซ็นเซอร์ไว้แล้ว

         “จากการทดลองอุปกรณ์โดยติดตั้งที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 15 วัน เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลและรายงานผล พบว่าสามารถใช้งานได้จริง แต่ยังต้องปรับปรุงให้แม่นยำมากขึ้น รองรับการต่อยอดเชิงพาณิชย์ใช้ในการเตือนภัยในสถานการณ์จริง น.ส.นฤดีกล่าว

        ผลงานระบบเตือนภัยน้ำท่วมของมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการประกวดโครงการนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนครั้งที่ 1 และจะเป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปเยี่ยมชมศูนย์เตือนภัยที่ประเทศญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้