ทุนเมืองไทยประกันชีวิตให้นักศึกษา
เมืองไทยประกันชีวิตมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 หรือปีที่ 2 ระดับปริญญาตรี เรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป เพื่อให้เรียนภายในประเทศ เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้
1. คุณสมบัติ
1.1 ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 หรือปีที่ 2 ระดับปริญญาตรี
1.2 ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องผ่านการศึกษาระดับชั้นปีที่ 1 มาแล้วอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา และมีเกรดเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.00
2. สาขาวิชาที่เปิดให้ทุน
2.1 เศรษฐศาสตร์ 2.4 ทรัพยากรมนุษย์
2.2 คณิตศาสตร์ประกันภัย 2.5 การเงินและการธนาคาร
2.3 สถิติประยุกต์ 2.6 วิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
3. ทุนการศึกษา
จำนวน 2 ทุน ซึ่งเป็นทุนการศึกษาภายในประเทศ
4. กำหนดการต่าง ๆ เกี่ยวกับการสมัครขอรับทุน
4.1 เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึง 30 มีนาคม 2550
4.2 สอบข้อเขียน
4.2.1 ภาษาอังกฤษ ให้ผู้สมัครขอรับทุนสมัครสอบ CU-TEP ด้วยตนเอง แล้วนำผลการสอบมาแจ้งที่
ฝ่ายการพนักงาน ภายในวันที่ 20 เมษายน 2550
4.2.2 คณิตศาสตร์ กำหนดสอบวันที่ 25 เมษายน 2550 ที่ฝ่ายการพนักงานชั้น 6
4.3 สอบสัมภาษณ์วันที่ 4 พฤษภาคม 2550 เวลา 10.00-12.00 น. ที่ฝ่ายการพนักงานชั้น 6
4.4 วันประกาศผล จะแจ้งให้ทราบในวันสัมภาษณ์
ผู้ใดที่สนใจให้สมัครขอรับทุนได้ที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ฝ่ายการพนักงาน ที่อยู่ 250 ถนนรัชดาภิเษกห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โทรศัพท์ 0-2290-2378
รายละเอียดทุน
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ตระหนักดีถึงความสำคัญของการศึกษา อันถือเป็นการพัฒนา
ทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น จึงได้ยึดเป็นนโยบายในการส่งเสริมการศึกษา โดยมอบทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี ภายในประเทศให้แก่บุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลผู้รับทุนต่างนำวิชาความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาตนเอง สังคมและการดำเนินงานของบริษัท ฯ สำหรับการคัดเลือกให้ทุนการศึกษานั้น บริษัทฯ ได้กำหนดระเบียบการรับทุนการศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1. คุณสมบัติผู้สมัครขอรับทุน
1.1 ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องเป็นนักศึกษาปีที่ 1 หรือปีที่ 2 ระดับปริญญาตรี
1.2 ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องผ่านการศึกษาระดับชั้นปีที่ 1 มาแล้วอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา และมีเกรดเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.00
1.3 ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องมีอายุไม่เกิน 21 ปี บริบูรณ์ นับถึงวันที่ ประกาศปิดรับสมัคร
1.4 ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องผ่านการทดสอบ และคัดเลือกตามที่บริษัท ฯ กำหนด ซึ่งแบ่งเป็น
1.4.1 ทดสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์
1.4.2 สอบสัมภาษณ์เมื่อผู้สมัครขอรับทุนผ่านการทดสอบข้อเขียนตามเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
1.5 ผู้สมัครขอรับทุนการศึกษา ต้องเป็นบุคคลที่ทางสถาบันการศึกษาที่ศึกษาอยู่ให้การรับรองว่าเป็นบุคคลที่เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์ในการศึกษาในระดับปริญญาตรี
2. ข้อผูกพันและเงื่อนไขการรับทุน
2.1 ผู้รับทุนจะต้องศึกษาให้ครบถ้วนตามหลักสูตรปริญญาตรี ภายในระยะเวลา 4 ปี
2.2 ผู้รับทุนจะต้องรายงานผลการศึกษาให้บริษัท ฯ รับทราบ และจะต้องส่งใบเสร็จ ค่าธรรมเนียมการศึกษาฯลฯ เพื่อชำระบัญชีกับบริษัท ฯ ทุกภาคการศึกษา
2.3 การดำเนินการ หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ขณะที่กำลังศึกษาอยู่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากบริษัท ฯ เสียก่อน มิฉะนั้นบริษัท ฯ สามารถบอกยกเลิกการให้ทุน
2.4 ผู้รับทุนต้องจัดทำสัญญาการรับทุนตามแบบที่กำหนดไว้
2.5 ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ หากผู้รับทุนได้รับทุนการศึกษาจากองค์กร หรือหน่วยงานอื่นใด บริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์การให้ทุนของบริษัท ฯ ต่อไป และถือว่าเป็นการละเมิดสัญญาการรับทุน ผู้รับทุนจะต้องชำระคืนค่าใช้จ่ายตามข้อ 3.1 ทั้งหมดพร้อมค่าปรับ 2 เท่า
2.6 กรณีผู้รับทุนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วบริษัทฯจะให้โอกาสร่วมงานกับบริษัทในตำแหน่งที่เหมาะสมและมีข้อผูกพันในการใช้ทุน โดยเป็นพนักงานของบริษัท ฯ เป็นระยะเวลา 2 เท่าของระยะเวลาการศึกษา
2.7 กรณีขอยกเลิกทุนหรือเรียนไม่สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด หรือเมื่อเข้าร่วมงานกับบริษัท ฯ แล้ว ลาออกก่อนครบระยะเวลาการใช้ทุน ผู้รับทุu3609 .จะต้องชำระคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตามสัดส่วนของระยะเวลาที่ได้ทำงานใช้ทุนแล้ว พร้อมค่าปรับ 2 เท่า
3. ข้อปฏิบัติของผู้รับทุนการศึกษาภายในประเทศ
3.1 ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
3.1.1 ค่าลงทะเบียนเรียน และค่าธรรมเนียมการศึกษาตามที่จ่ายจริง โดยแบ่งจ่ายตามภาคการศึกษา ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้รับทุนจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนเปิดภาคการศึกษา
3.1.2 ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา หรือกิจกรรมอื่นใดที่เป็นข้อกำหนดจาก สถาบันการศึกษา
3.1.3 ค่าใช้จ่ายประจำเดือน เดือนละ 3,000 บาท จนกว่าจะจบการศึกษา หรือครบระยะเวลาที่กำหนด
3.2 การเบิกค่าใช้จ่าย
3.2.1 การขออนุมัติเบิกค่าเล่าเรียนในแต่ละภาคการศึกษา ให้ผู้รับทุนส่งใบแจ้งเรียกเก็บ
ค่าลงทะเบียนมาที่ฝ่ายการพนักงาน หรือใบเสร็จจากทางมหาวิทยาลัย ในกรณีที่สำรองจ่ายไปก่อน
ภายใน 2 สัปดาห์
3.2.2 การเบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ต้องมีหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายทุกครั้ง ถ้าในขณะที่ขอเบิกไปนั้นยังไม่มีหลักฐาน เมื่อได้รับหลักฐานแล้วให้จัดส่งมาที่ฝ่ายการพนักงานทันที
3.3 วิชาที่ศึกษา
3.3.1 การขออนุมัติวิชาที่ศึกษาในแต่ละภาคเรียนตามปกติถ้าเป็นไปได้ บริษัท ฯ จะให้ผู้รับทุนรายงานวิชาที่จะศึกษาล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน เพื่อให้บริษัท ฯ ได้พิจารณาตามความเหมาะสม
3.3.2 การลงทะเบียนรายวิชาต้องรายงานขออนุมัติลงทะเบียนแต่ละภาคเรียนโดยแจ้งหมายเลขรหัสลักษณะวิชาว่าเป็นวิชาบังคับหรือวิชาเลือก ชื่อวิชา และจำนวนหน่วยกิตโดยละเอียดพร้อมส่งหลักฐานการลงทะเบียนมาด้วยทุกครั้ง
3.3.3 ตามปกติบริษัท ฯ ไม่จำเป็นต้องตอบอนุมัติ นอกจากในกรณีที่ต้องการจะให้ ผู้รับทุนเปลี่ยนวิชาที่ศึกษาจึงจะแจ้งไป ดังนั้นถ้าไม่มีคำตอบจากบริษัท ฯ จะถือว่าอนุมัติให้ศึกษาได้โดยอัตโนมัติ
3.3.4 วิชาเลือก ต้องสอดคล้องและเอื้อประโยชน์ต่อสาขาวิชาหลัก
3.3.5 บริษัท ฯ กำหนดให้ศึกษาในภาคเรียนฤดูร้อนด้วยแต่หากมหาวิทยาลัยไม่เปิดสอนในภาคเรียนฤดูร้อนให้แจ้งบริษัท ฯ เพื่อจะจัดให้มีการฝึกงานแทน
3.4 การติดต่อกับบริษัท ฯ
ฝ่ายการพนักงานจะเป็นผู้ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับผู้รับทุนทั้งหมด หากมีข้อสงสัยหรือขัดข้องประการใดให้ติดต่อผู้บริหารฝ่ายการพนักงาน โดยเรื่องที่จะตอ้ งแจ้งขออนุมัติหรือรายงานเพื่อทราบ ได้แก่
1. ที่อยู่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และการเปu3621 .ี่ยนแปลงทุกครั้ง
2. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรก และชื่อธนาคารอย่างชัดเจน
3. รายงานขออนุมัติวิชาที่จะศึกษาในแต่ละภาคเรียน และกรณีเปลี่ยนแปลงวิชาทุกครั้ง
4. รายงานผลการศึกษาในแต่ละภาคเรียนเป็นเอกสาร
5. รายงานขออนุมัติเบิกค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
6. เรื่องอื่น ๆ ที่บริษัท ฯ ร้องขอ หรือเห็นสมควรรายงาน
3.5 การรายงานตัว
3.5.1 เมื่อใกล้จะจบการศึกษาให้แจ้งบริษัท ฯ เพื่อทราบ
3.5.2 ให้มารายงานตัวที่บริษัท ฯ ภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากสำเร็จการศึกษาอย่างเป็นทางการ
3.5.3 หลักฐานที่ต้องเตรียมในการรายงานตัว มีดังนี้
3.5.3.1 รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป
3.5.3.2 สำเนาทะเบียนบ้าน
3.5.3.3 สำเนาบัตรประชาชน
3.5.3.4 หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อม Transcript
3.5.3.5 ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร สำหรับเพศชาย