ทุนรัฐบาลรัสเซียเรียน Music
สำนักงาน ก.พ. รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในสหพันธรัฐรัสเซียสาขาวิชา Music ประจำปี 2550 (ทุนบุคคลทั่วไประดับปริญญา) โดยผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการในส่วนราชการที่ ก.พ. กำหนด
1. ทุนที่รับสมัคร จำนวน 1 ทุน ไปศึกษาสาขาวิชา Music ระดับปริญญาโทณ สหพันธรัฐรัสเซีย โดยกำหนดให้ไปศึกษาในสถาบัน ดังนี้
1.1 Moscow State Conservatory
1.2 Saint-Petersburg State Conservatory
2. ข้อผูกพันในการรับทุน
2.1 ผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการในส่วนราชการที่ ก.พ. กำหนด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
2.2 กรณีผู้ได้รับทุนไม่กลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับสำนักงานก.พ. นอกจากจะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น ยังจะต้องชดใช้เงินอีก 2 เท่าของจำนวนเงินทุนดังกล่าวให้เป็นเบี้ยปรับอีกด้วย
3. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครคัดเลือก
3.1 เป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535
3.2 เป็นผู้มีอายุไม่เกิน 35 ปี นับถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2550
3.3 เป็นผู้มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-TEP)ไม่ต่ำกว่า 75 คะแนน และผลการสอบสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2550
3.4 เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตรระดับปริญญาตรีทางดุริยางคศิลป์ (สากล) และต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาในระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า3.00 และเมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว จะต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรปริญญาตรี ไม่ต่ำกว่า 3.00 (ในระบบการวัดผลที่คิดคะแนนให้ A=4, B=3, C=2, D=1, E หรือ F=0) หรือร้อยละ75.00 หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ หรือ เป็นผู้ได้รับปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาตรี และมีผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 (ในระบบการวัดผลที่คิดคะแนนให้ A=4, B=3, C=2,D=1, E หรือ F=0) หรือร้อu3618 ละ 75.00 หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
3.5 ผู้สมัครคัดเลือกที่มีผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตามข้อ 3.4 จะต้องมีหนังสือรับรองผลการเรียนจากสถานศึกษามาแสดงว่าเป็นผู้มีผลการเรียนเทียบเท่ากับผลการเรียนที่กำหนดไว้ หากผู้ใดไม่มีหนังสือรับรอง ผลการเรียนมาแสดง จะถือว่าไม่มีสิทธิในการสมัครสอบครั้งนี้
3.6 ต้องเป็นผู้ซึ่งไม่เคยได้รับปริญญาโท หรือเทียบเท่าปริญญาโทในสาขาและวิชาเอกหรือเน้นทางเดียวกับทุนที่จะไปศึกษา
3.7 ผู้สมัครคัดเลือกซึ่งเป็นผู้รับทุนรัฐบาลและอยู่ระหว่างดำเนินการไปศึกษาวิชา ณต่างประเทศ ไม่มีสิทธิสมัครสอบในครั้งนี้
3.8 ผู้สมัครคัดเลือกที่เคยได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศมาแล้ว ต้องเป็นผู้ซึ่งหมดภาระผูกพันในการปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับ ก.พ. หรือส่วนราชการแล้วภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2550
3.9 ผู้สมัครคัดเลือกที่เป็นข้าราชการ ต้องแสดงหนังสืออนุญาตให้สมัครสอบและยินยอมให้โอนไปปฏิบัติงานในหน่วยงานที่ได้รับทุนจากหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด หากมิได้แสดงหนังสือดังกล่าว ก.พ. จะพิจารณาไม่ให้มีสิทธิสมัครสอบ หรือเพิกถอนการให้ทุน
3.10 สำหรับพระภิกษุหรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบคัดเลือกเพื่อรับทุนรัฐบาล ฯ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 6 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538
4. การรับสมัครคัดเลือก
4.1 ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ ดูรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ข่าวสำนักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ซอย 4 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยาสำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยบูรพา (จังหวัดชลบุรี) สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (จังหวัดราชบุรี) สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (จังหวัดพิษณุโลก) สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีสำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยขอนแก่น สำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีสำนักงาน ก.พ. เครือข่ายมหาวิทยาลัยสงขลาu3609 ครินทร์ (วิทยาเขตหาดใหญ่) และทาง Internet ใน Websiteของสำนักงาน ก.พ. ที่ http://www.ocsc.go.th
4.2 กำหนดวันรับสมัครสอบ และวิธีการยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์รับสมัครสอบตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2550การยื่นใบสมัครสอบ ให้ยื่นใบสมัครสอบทางไปรษณีย์เท่านั้น ผู้สมัครคัดเลือกต้องกรอกรายละเอียดในใบสมัครสอบให้ครบถ้วน ถูกต้อง และลงลายมือชื่อด้วยตนเอง แล้วส่งเอกสารและหลักฐานการสมัครสอบ ไปยังกลุ่มงานสรรหาและเลือกสรร ผู้รับทุนและผู้มีศักยภาพ ศูนย์สรรหาและเลือกสรรสำนักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ ซอย 4 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 วงเล็บ มุมซองว่า “(สมัครสอบทุน music)” ภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2550ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ. จะถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางประทับตรารับจดหมายของผู้สมัครคัดเลือกเป็นสำคัญ ใบสมัคร เอกสาร หลักฐานต่าง ๆ และค่าธรรมเนียมสอบ ที่ส่งหลังวันที่ 10 สิงหาคม 2550 จะไม่รับสมัคร
4.3 เอกสาร หลักฐาน ที่จะต้องยื่นพร้อมใบสมัครคัดเลือก
(1) ใบสมัคร พร้อมติดรูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดำขนาด 1×1.5 นิ้ว ถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี นับถึงวันที่ลงนามในประกาศสำนักงาน ก.พ.
(2) สำเนาปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร พร้อมสำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนตลอดหลักสูตร (Transcript of Records) ในระดับปริญญาตรี จำนวนอย่างละ 1 ชุด
(3) สำเนาผลการสอบภาษาอังกฤษของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-TEP) ที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 75 คะแนน และผลการสอบสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2550 จำนวน 1 ชุด
(4) หนังสืออนุญาตและรับรองความเหมาะสมในการสมัครคัดเลือกเพื่อรับทุนจากหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด โดยใช้แบบฟอร์ม สนง. ก.พ. 5กรณี ผู้สมัครคัดเลือกที่ปฏิบัติงานในองค์การมหาชนหรือหน่วยงานของรัฐแต่ยังมี ฐานะเป็นข้าราชการตามบทเฉพาะกาลของกฎหมายที่จัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วย งาน ของรัฐที่ปฏิบัติงานอยู่ ให้แนบหนังสือรับรองของหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดมาด้วย
(5) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุดสำเนาหลักฐานทุกฉบับ ให้ผู้สมัครคัดเลือกเขียนรับรองว่า สำเนาถูกต้อง และลงชื่อกำกับไว้ด้วย
4.4 ในการสมัครคัดเลือก ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบและรับรองตนเองว่า มีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครจริง หากปรากฏภายหลังว่าผู้ใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร จะถือว่า ผู้นั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติทันที
5. การแต่งตั้งกรรมการเกี่ยวกับการคัดเลือก
5.1 ก.พ. จะแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก
5.2 ให้คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกกำหนดวัน เวลา และสถานที่สอบ วางระเบียบและวิธีการสอบ ตัดสินปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครสอบและปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินการสอบคัดเลือกที่ไม่ขัดกับประกาศรับสมัครสอบ และพิจารณาผู้ได้รับทุนแทน รวมทั้งแต่งตั้งกรรมการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน
5.3 ให้คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน โดยให้ประธานกรรมการดำเนินการคัดเลือก หรือกรรมการที่ประธานฯ มอบหมายเป็นผู้ประกาศให้ผู้สมัครคัดเลือกทราบ
6. วิธีการคัดเลือกและเกณฑ์การตัดสิน
6.1 สำนักงาน ก.พ. จะดำเนินการคัดเลือก โดยวิธีการสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น พื้นความรู้ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในสาขาวิชา ที่สมัคร ความรู้เกี่ยวกับสหพันธรัฐรัสเซีย ความตั้งใจจริง ทัศนคติในการรับทุนและการกลับมารับราชการ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ การปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม เชาวน์ปัญญา และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น
6.2 ผู้มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์ คือ ผู้ที่ได้คะแนนภาษาอังกฤษ (CU-TEP) สูงสุดเรียงลงมาตามลำดับไม่เกิน 5 เท่าของจำนวนทุน
6.3 ผู้มีสิทธิได้รับทุน คือ ผู้ได้คะแนนสัมภาษณ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยมีคะแนนสัมภาษณ์สูงสุดเรียงลงมาตามลำดับเท่าจำนวนทุน และจะเป็นผู้ได้รับทุนเมื่อได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในสหพันธรัฐรัสเซียตามที่ ก.พ. กำหนด
6.4 การประกาศรายชื่อ จะประกาศเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับทุนเท่านั้น
6.5 ถ้าผู้มีสิทธิได้รับทุนสละสิทธิการรับทุน ถูกเพิกถอนการให้ทุน หรือขาดคุณสมบัติที่จะรับทุน จะพิจารณาให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกที่ได้คะแนนในลำดับถัดไปของทุนหน่วยนั้น และยังมิได้รับทุนใดในการสอบคัดเลือกครั้งเดียวกันนี้เป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนแทน ทั้งนี้ ต้องภายในระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน
7. เงื่อนไขการรับทุน
7.1 กรณีผู้ได้รับทุนเป็นข้าราชการหรือพนักงานในมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการให้ปฏิบัติราชการชดใช้ทุน ณ ส่วนราชการที่เป็นต้นสังกัด
7.2 กรณีผู้ได้รับทุนไม่ได้เป็นข้าราชการ จะจัดสรรให้ปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
(1) สถาบันอุดมศึกษาที่เป็นส่วนราชการ
(2) กระทรวงวัฒนธรรม
8. การรายงานตัวและการอบรม
ผู้มีสิทธิได้รับทุนต้องไปรายงานตัวและเข้ารับการอบรมตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด
9. การตรวจสุขภาพและอนามัย
ผู้มีสิทธิได้รับทุนต้องไปตรวจสุขภาพและอนามัยกับคณะกรรมการแพทย์ของ ก.พ.ตามวัน เวลา และสถานที่ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด ผลการตรวจสุขภาพและอนามัยของคณะกรรมการแพทย์ของ ก.พ. ให้ถือเป็นที่สุด ผู้เข้ารับการตรวจสุขภาพและอนามัยจะไม่มีสิทธิขอให้ทบทวนแต่ประการใด
10. การทำสัญญา
ผู้มีสิทธิได้รับทุนต้องทำสัญญาตามแบบสัญญาที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด
11. การรับเงินทุน
ผู้ได้รับทุนจะได้รับเงินทุน เมื่อทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว และมีผลการตรวจสุขภาพและอนามัยจากคณะกรรมการแพทย์ของ ก.พ. ที่ระบุว่าพร้อมที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศได้ โดยจะได้รับค่าใช้จ่าย เช่น ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับค่าใช้จ่ายเตรียมตัวก่อนเดินทาง ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา ค่าคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
12. การสมัครสถานศึกษาและการเดินทาง
ผู้ได้รับทุนจะต้องสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษาตามแนวการศึกษาที่ส่วนราชการได้กำหนดไว้ และเมื่อสถานศึกษาตอบรับแล้ว จึงจะให้ผู้ได้รับทุนเดินทางไปศึกษา
13. การเพิกถอนการให้ทุน
ก.พ. จะพิจารณาเพิกถอนการให้ทุนแก่ผู้ได้รับทุน หากเข้ากรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
13.1 ไม่ผ่านการตรวจสุขภาพและอนามัยจากคณะกรรมการแพทย์ของ ก.พ.
13.2 กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาตรี ไม่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2550 และ/หรือเมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีได้คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรต่ำกว่า 3.00
13.3 ไม่มีหนังสืออนุญาตและรับรองความเหมาะสมในการสมัครคัดเลือกเพื่อรับทุนจากหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด
13.4 หลีกเลี่ยง ละเลยการรายงานตัว การอบรม และการทำสัญญาตามที่สำนักงานก.พ. กำหนด
13.5 มีความประพฤติเสื่อมเสีย
13.6 ขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่นานเกิน 1 ปี
13.7 หลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อ เมื่อสถานศึกษาตอบรับแล้ว
13.8 ไม่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาจากสถานศึกษาที่กำหนด ภายในระยะ 1 ปีนับแต่วันประกาศรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิได้รับทุน