คนสิงคโปร์เรียนมหาวิทยาลัยเพิ่ม 40%
Lee Hsien Loong นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าสัดส่วนของคนหนุ่มสาวชาวสิงคโปร์ที่จะเข้าสู่การเรียนระดับอุดมศึกษาจะเพิ่มขึ้นถึง 40% ในอีก 8 ปีข้างหน้า หรือปีค.ศ.2020 เทียบกับปัจจุบันที่มีจำนวน 27% อันเป็นผลมาจากการสนับสนุนของรัฐบาลที่มุ่งให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของรัฐขยายพื้นที่รับนักศึกษาเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้สิงคโปร์เป็นเมืองแห่งการศึกษาอย่างแท้จริง
นายกฯลี กล่าวระหว่างร่วมในงานชุมนุมเนื่องในเดือนแห่งวันชาติของสิงคโปร์(วันชาติคือ 9 ส.ค.) ที่จัดขึ้นที่ Singapore Institute of Technology (SIT) ว่า การศึกษาคือ สิ่งสำคัญที่สุดที่สิงคโปร์ลงทุนในระยะยาวกับประชาชน และเป็นกุญแจสำคัญในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เขายังกล่าวอีกว่า SIT และ Singapore Institute of Management University (UniSIM) เป็น 2 แห่งที่กำลังจะยกระดับขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 5 และ 6 ของสิงคโปร์ ที่จะมีการเปิดสอนหลักสูตรปริญญาประยุกต์ รวมทั้ง Part-Time Degree ต่าง ๆ ซึ่งก็จะรวมถึงการเปิดรับนักศึกษา Full-Time เพิ่มขึ้นอีกถึง 3,000 ที่ อันจะทำให้ยอดรวมของนักศึกษาในปี 2020 ขยายตัวเพิ่มเป็น 16,000 คน เทียบกับปัจจุบันที่มี 13,000 คน
กระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ แถลงเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า การขยายตัวเพิ่มขึ้นของจำนวนนักศึกษาที่จะมีขึ้น จะเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน ซึ่งในที่นี้ก็รวมถึงยอดการลงทะเบียนที่จะมากขึ้นในมหาวิทยาลัยหลักอื่น ๆ ของประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็น National University of Singapore ที่ร่วมมือทางการศึกษากับ Yale University มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยใหม่ของสิงคโปร์ คือ Singapore University of Technology and Design ที่ร่วมมือกับ Massachusetts Institute of Technology ของสหรัฐเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี Nanyang Technological University,Singapore Management University รวมทั้งสถาบันการศึกษาด้านศิลปะอีก 2 แห่ง.
แหล่งข่าว :University World News by Adele Yung
